บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในช่วงราคาที่ผันผวน หลังจากทะลุผ่านจุดแนวรับหลักและเข้าสู่ภาวะไซด์เวย์ ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาผลการประชุมคณะกรรมการตลาดเสรีสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ความคาดหวังต่อการปรับฐานระยะสั้นเพื่อเดินหน้าต่อกลับมาอีกครั้ง โดยมีสัญญาณทางเทคนิคและข้อมูลออนเชนบางส่วนที่ชี้ว่า ราคาอาจมีโอกาสกลับมาทำ ‘จุดสูงสุดใหม่’
ล่าสุดราคาบิตคอยน์ยังเคลื่อนไหวภายในกรอบ ‘ขาขึ้นต่อเนื่อง’ โดยเคยลงไปแตะระดับ *114,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.8 ล้านบาท)* ซึ่งเป็นจุดที่มีแรงเทขายสูง ก่อนจะดีดตัวกลับอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวกระเป๋าเงินวาฬที่ไม่ได้ใช้งานมานาน ถูกมองว่าเป็นปัจจัยที่กดดันราคาชั่วคราว เนื่องจากมีการโอนเหรียญจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าว
ในขณะนี้ BTC ยังคงวิ่งอยู่ในกรอบราคาระหว่าง *114,000 ถึง 123,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 17.1 ล้านบาท)* โดยตลาดอยู่ในสถานะ ‘รอคอย’ ผลการประชุม FOMC ซึ่งจะมีขึ้นในอีกสองวัน หากธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ หรือมีท่าทีแข็งกร้าว ก็อาจส่งผลต่อเนื่องให้เกิด ‘ความผันผวนรุนแรง’ ในตลาดคริปโต
จากมุมมองทางเทคนิค บนกราฟ 4 ชั่วโมง พบว่าแนวรับของ BTC อยู่ที่ระดับ *115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16 ล้านบาท)* ซึ่งเป็นจุดฟีโบนักชีรีเทรซระดับ 0.5 และตรงกับบริเวณแนวรับก่อนเกิดการทะลุรูปแบบ ‘ธงขาขึ้น’ (*Bullish Flag*) หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณนี้ได้ กูรูหลายคนเชื่อว่าอาจกลับไปทดสอบและอาจทะลุผ่านแนวต้านเดิมที่ *123,000 ดอลลาร์*
ด้านข้อมูลออนเชนแม้จะให้สัญญาณแย้งกัน แต่ชี้ให้เห็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญ โดยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม มี BTC มูลค่ากว่า *1.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.66 หมื่นล้านบาท)* ไหลเข้าไบแนนซ์ ซึ่งถือเป็นการฝากเหรียญครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 วัน บ่งบอกว่า ‘แรงขายจากวาฬ’ ส่งผลให้ราคาไถลลง แต่ในทางตรงกันข้าม นักวิเคราะห์พบว่านักลงทุนรายย่อยยังไม่มีส่วนร่วมมากนัก ทำให้ความไม่สมดุลในฝั่งอุปสงค์ยังคงอยู่
ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่า เหรียญจำนวนมากที่วาฬโอนเข้าอาจไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อ ‘เก็บรักษา’ แต่อาจเตรียม ‘เทขายเพิ่ม’ ในกรณีที่แรงซื้อไม่สามารถซึมซับได้หมด หากเกิดขึ้นจริง BTC อาจไถลลงทดสอบ *แนวรับ 110,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.2 ล้านบาท)* อย่างไรก็ตาม หากแรงซื้อกลับมาชัดเจน ราคาก็มีโอกาสทะลุ *121,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16.8 ล้านบาท)* และอาจสร้าง ‘จุดสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์’
โดยรวมแล้ว การประชุม FOMC ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดบิตคอยน์ในระยะกลาง ถึงยาว นักลงทุนควรจับตาคำแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยจะกลายเป็นปัจจัยชี้นำหลักสำหรับทั้งตลาดคริปโตและสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
ความคิดเห็น 0