สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้นส่งผลให้ตลาดคริปโตที่เกี่ยวข้องกับ AI ร่วงลงอย่างหนัก
เมื่อวันที่ 4 (เวลาท้องถิ่น) จีนประกาศใช้มาตรการตอบโต้ทางภาษี โดยเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 15% หลังจากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษี 10% สิ่งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดโทเค็น AI ซึ่งเผชิญกับการเทขายอย่างหนัก ขณะที่มีรายงานว่าจีนกำลังรื้อฟื้นการสอบสวนด้านการผูกขาดต่อบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ เช่น กูเกิล และเอ็นวิเดีย(NVDA) ทำให้บรรยากาศการลงทุนยิ่งตึงเครียดขึ้น
ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มูลค่าตลาดรวมของโทเค็น AI ลดลงกว่า 9% โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่พึ่งพาหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูงจากเอ็นวิเดียได้รับผลกระทบหนัก หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ซึ่งเป็นหัวใจหลักของหลายโครงการ AI บนบล็อกเชน กลับมีต้นทุนสูงขึ้นเนื่องจากภาษีนำเข้า ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหากอัตราการส่งมอบ GPU ลดลง อุตสาหกรรม AI บนบล็อกเชนอาจชะลอการเติบโต และทำให้สถาบันการเงินบางแห่งเริ่มลดความเชื่อมั่นในการลงทุน
ในบรรดาโทเค็น AI ที่ได้รับผลกระทบหนักพบว่า NEAR โปรโตคอล(NEAR), อินเทอร์เน็ตคอมพิวเตอร์(ICP), บิทเทนเซอร์(Bittensor), เรนเดอร์(Render) และเดอะกราฟ(The Graph) ต่างร่วงลง 20-30% ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เหรียญเอไอโอแซด เน็ตเวิร์ก(AIOZ) ลดลงแรงที่สุดที่ 33.8% แสดงให้เห็นถึงความกังวลของตลาด
ราคาหุ้นของเอ็นวิเดียเองก็ไม่พ้นแรงขาย โดยร่วงลง 14.21% เมื่อเทียบกับต้นปี และลดลง 20.6% ตลอดเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด หุ้นกลับดีดตัวขึ้น 1.71% บ่งบอกถึงความผันผวนที่ยังคงสูง
แนวโน้มของตลาดโทเค็น AI ขึ้นอยู่กับทิศทางของข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศ หากสถานการณ์คลี่คลายลง อาจหนุนให้ตลาดฟื้นตัวเร็วขึ้น ในทางกลับกัน หากสงครามการค้าเดินหน้าไปอย่างยืดเยื้อ มีความเป็นไปได้สูงว่าตลาดจะเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่าจีนอาจเดินหน้าสอบสวนอินเทลและควอลคอม ซึ่งอาจทำให้ทั้งตลาดเทคโนโลยีและคริปโตที่เกี่ยวข้องต้องเผชิญกับความผันผวนสูงในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า
ความคิดเห็น 0