วีซา(Visa) เพิ่มรองรับ 3 สเตเบิลคอยน์ใหม่ พร้อมขยายเครือข่ายสู่บล็อกเชน 'สเตลลา' และ 'อวาแลนเช(AVAX)'

วีซา(Visa) บริษัทผู้นำด้านการชำระเงินระดับโลก ประกาศขยายระบบชำระเงินด้วย 'สเตเบิลคอยน์' โดยเพิ่มการรองรับสกุลเงินดิจิทัลแบบมีเสถียรภาพอีก 3 รายการ ได้แก่ โกลบอลดอลลาร์(USDG), เพย์พาลยูเอสดี(PYUSD) และยูโรคอยน์(EURC) พร้อมบล็อกเชนใหม่ 2 แห่งคือ 'สเตลลา' และ 'อวาแลนเช(AVAX)' เพื่อเปิดทางให้ภาคธุรกิจสามารถใช้สเตเบิลคอยน์ในการทำธุรกรรมและชำระเงินได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น

เมื่อวันที่ 30 วีซาออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ระบุว่าความเคลื่อนไหวล่าสุดจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ 'ส่งและรับ' สเตเบิลคอยน์ รวมถึงแปลงยอดคงเหลือของตนเป็นเงินตราในระบบ (fiat) ผ่านเครือข่ายบล็อกเชนที่ได้รับการสนับสนุน ขณะเดียวกันวีซาเคยให้บริการการชำระเงินด้วยยูเอสดีคอยน์(USDC) ซึ่งออกโดยเซอร์เคิล(Circle) ไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยดำเนินการผ่านเครือข่ายอย่างอีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) ซึ่งล่าสุดก็ได้รวมเครือข่าย 'สเตลลา' และ 'อวาแลนเช' เข้ามาเพิ่มเติมในการให้บริการ

ประกาศดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่บรรยากาศของภาคสถาบันกำลังเริ่มหันมาสนใจสเตเบิลคอยน์อย่างจริงจัง หลังเกิดการลงนาม ‘กฎหมาย GENIUS สเตเบิลคอยน์’ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ในสหรัฐ เช่นเดียวกับที่บริษัทเทคโนโลยี ธนาคาร และผู้ค้าปลีกรายใหญ่เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดนี้มากขึ้น *ความคิดเห็น* การเคลื่อนไหวของวีซาสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการปฏิวัติโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่เกิดขึ้นผ่านสเตเบิลคอยน์ในภาคธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การปรับกลยุทธ์ของวีซาถือเป็นการตอบรับต่อกระแสดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ