สถาบันการเงินสหรัฐทดสอบรีโปบนบล็อกเชนครั้งแรก ใช้ USDC แลกพันธบัตรผ่านแคนตันเน็ตเวิร์ก

การทดลองใช้ ‘บล็อกเชน’ สำหรับการซื้อขาย *รีโปด้วยพันธบัตรสหรัฐ* ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกภายใต้ความร่วมมือของสถาบันการเงินดั้งเดิมชั้นนำของสหรัฐ โดยการซื้อขายครั้งนี้ใช้ *เหรียญ USDC* บนเครือข่าย *แคนตันเน็ตเวิร์ก(Canton Network)* และมีผู้ร่วมดำเนินการกว่า 10 แห่ง เช่น แบงก์ออฟอเมริกา(BAC), ซิทาเดล ซีเคียวริตีส์, บริษัทรับฝากหลักทรัพย์และชำระบัญชีสหรัฐ(DTCC), และ โซซิเอเต เจเนราล สร้างกระแสความสนใจอย่างมากในแวดวงการเงิน

ธุรกรรมรีโปดังกล่าวเกิดขึ้นผ่าน *เทรดเว็บ(Tradeweb)* แพลตฟอร์มการซื้อขายพันธบัตรอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงสุดสัปดาห์ โดย USDC ถูกนำมาใช้แลกเปลี่ยนกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐผ่านการแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้นทำธุรกรรมบนแคนตันเน็ตเวิร์ก โดย *DTCC* ได้ดูแลการเก็บรักษาพันธบัตรฉบับจริงไว้ภายใต้ระบบ *DTC* ก่อนจะผ่านขั้นตอน *โทเคนไนซ์* และนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยน

สิ่งที่น่าสนใจคือ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการดำเนินกระบวนการ *ออกและไถ่ถอนเหรียญ USDC แบบบนเชน(fully on-chain)* ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาดการเงิน ทำให้สามารถซื้อขายได้ใน *วันหยุดเสาร์-อาทิตย์และนอกเวลาทำการ* ซึ่งเป็นจุดบอดของระบบธนาคารดั้งเดิม

จัสติน ปีเตอร์สัน(Justin Peterson) ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของ *เทรดเว็บ* ระบุว่า นี่คือ “หมุดหมายสำคัญในการพัฒนาตลาดทุนโลกให้สามารถดำเนินการแบบ 24 ชั่วโมงต่อวัน” พร้อมชี้ว่า การรวมพลังของสภาพคล่องจากเทรดเว็บกับโครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานร่วมกันได้ของแคนตันเน็ตเวิร์ก ทำให้สามารถดำเนินธุรกรรมรีโปโดยไม่ต้องผ่านการชำระบัญชีแบบเดิมเป็นครั้งแรก พร้อมย้ำว่า “นี่เป็นผลจากความร่วมมือข้ามภาคส่วน และเป็นก้าวเริ่มต้นของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ยืดหยุ่น เชื่อมโยงเข้าหากัน และเปิดตลอดเวลา”

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเห็นว่า นี่เป็นกรณีแรกที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างโลกการเงินดั้งเดิม (TradFi) กับเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ผ่านการทดลองจริง โดยเฉพาะการเข้าร่วมขององค์กรทางการเงินขนาดใหญ่และเป็นมิตรกับกฎระเบียบ เช่น DTCC, ซิทาเดล และโซซิเอเต เจเนราล ทำให้ *โมเดลของสินทรัพย์ดิจิทัลแบบโทเคนไนซ์และการชำระเงินอัตโนมัติด้วยสเตเบิลคอยน์* มีโอกาสฝังรากลึกในภาคการเงินกระแสหลัก

สำหรับเครือข่าย *แคนตันเน็ตเวิร์ก* ที่ถูกนำมาใช้ในครั้งนี้ เป็นระบบบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย(DLT) แบบไฮบริดที่พัฒนาโดยบริษัท ดิจิทัลแอสเซต(Digital Asset) มีจุดเด่นที่การออกแบบให้สอดรับกับ *การกำกับดูแล(Governance), ความเป็นส่วนตัว(Privacy)* และ *ความสามารถในการใช้งานร่วมกัน(Compatibility)* ซึ่งทำให้มันมีศักยภาพที่จะกลายเป็นช่องทางการโทเคนไนซ์สำหรับนักลงทุนสถาบันในอนาคต

นักวิเคราะห์มองว่า การทดสอบธุรกรรมเช่นนี้จะเป็นพื้นฐานให้เกิดการกระจายพันธบัตรสหรัฐ, ตราสาร MBS และตั๋วเงินเชิงพาณิชย์ (Commercial Papers) ผ่านเครือข่ายบล็อกเชนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะท่ามกลางสภาวะที่ *สหรัฐอาจเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่หากประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับเลือกอีกครั้ง* ทำให้ตลาดมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น และเป็นเหตุให้ *ความต้องการโครงข่ายการชำระเงินที่ปลอดภัยและดำเนินการได้ทุกเวลา* เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน