ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
สหรัฐฯ ส่งสัญญาณเป็นไปได้ในการซื้อบิตคอยน์(BTC)เพิ่ม หลังรัฐมนตรีคลังย้อนแย้งคำพูดตัวเองผ่านโซเชียลมีเดีย สร้างแรงสะเทือนในตลาดคริปโตอีกระลอก เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) สกอตต์ เบสเซนต์(Scott Bessent) รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย เปลี่ยนจุดยืนจากเดิมที่เคยระบุว่า *รัฐไม่มีแผนจะถือครองบิตคอยน์เพิ่มเติม* มาเป็น “รัฐบาลอาจพิจารณาซื้อเพิ่ม”
คำกล่าวของเบสเซนต์ครั้งนี้จุดความสนใจจากชุมชนคริปโตอย่างมาก เพราะเป็นการพลิกคำพูดจากที่เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า *รัฐบาลจะไม่ซื้อบิตคอยน์เพิ่มนอกจากที่มีอยู่แล้ว* ซึ่งส่งผลให้ราคา ‘บิตคอยน์’ ดิ่งลงอย่างรุนแรงในเวลานั้น ความย้อนแย้งนี้ทำให้ผู้ใช้งานบางส่วนวิจารณ์ว่า “เปลี่ยนท่าทีไปมาอย่างสับสน”
แม้จะดูเหมือนแค่การชี้แจงส่วนบุคคล แต่นักวิเคราะห์มองว่าคำพูดล่าสุดของเบสเซนต์มีนัยเชิงนโยบายในระยะยาว โดยเจ้าตัวระบุว่า รัฐบาลกำลัง “พิจารณาวิธีการซื้อคริปโตด้วยวิธีที่ไม่กระทบร่างงบประมาณ” ซึ่งคล้องกับคำพูดที่เขาเคยให้ไว้เมื่อเดือนมีนาคมว่า *สหรัฐฯ ควรกลายเป็นผู้นำในตลาดคริปโตระดับโลก* ในขณะเดียวกัน Bloomberg เคยคาดการณ์ไว้ว่า โอกาสที่สหรัฐฯ จะเข้าซื้อบิตคอยน์ในปีนี้อยู่ที่ 30% โดยอาจใช้กองทุนเพื่อเสถียรภาพการเงินระหว่างประเทศ (ESF) เป็นแหล่งทุน
ผลกระทบของคำกล่าวนี้สะท้อนทันทีผ่านกราฟราคา *บิตคอยน์* ที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ 117,201 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.62 ล้านบาท) ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาซื้อขายที่ราว 118,156 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.64 ล้านบาท) ซึ่งยังต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสองวันก่อนที่ 124,517 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.73 ล้านบาท) อยู่มาก อย่างไรก็ตาม ‘ความคิดเห็น’ จากผู้นำในวงการอย่างไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ประธานบริหารบริษัทกลยุทธ์ชื่อดังออกมาแสดงความเชื่อมั่น โดยกล่าวว่า “ความผันผวนเป็นของขวัญสำหรับนักลงทุนที่มีความเชื่อมั่น”
การเปลี่ยนจุดยืนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ต่อ *บิตคอยน์* แสดงให้เห็นว่า แม้คำพูดเพียงประโยคเดียวจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง ก็มีผลต่อทิศทางตลาดได้ทันที ทั้งยังเผยให้เห็นอิทธิพลของนโยบายคริปโตของสหรัฐฯ ต่อเวทีการเงินระดับโลกว่าไม่อาจมองข้ามได้ โดยตลาดยังคงจับตาว่า รัฐมนตรีเบสเซนต์จะมีมาตรการเพิ่มเติมใดออกมาอีกในอนาคต ทั้งต่อตลาดคริปโตโดยตรง และการกำกับดูแลในภาพรวม
ความคิดเห็น 0