รัฐบาลสหรัฐฯ ถือครองอีเธอเรียม(ETH) ทะลุ 281 ล้านดอลลาร์ หลังย้ายเหรียญกว่า 332,000 ดอลลาร์เข้า Coinbase

รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มการถือครองอีเธอเรียม(ETH)อีกครั้ง โดยมีการตรวจพบว่ากระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องกับทางการได้มีการเคลื่อนย้ายอีเธอเรียมมูลค่าราว *332,000 ดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 46.1 ล้านบาท) ไปยังตลาดซื้อขายคริปโต *คอยน์เบส(COIN)* ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน *ลุคออนเชน(Lookonchain)* เมื่อเร็วๆ นี้ ส่งผลให้มูลค่ารวมของอีเธอเรียมที่รัฐบาลสหรัฐฯ ถือครองในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ *281 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 3.9 พันล้านบาท)

ข้อมูลที่เปิดเผยล่าสุดระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ครอบครองสินทรัพย์ดิจิทัลรวมกันมากกว่า *23.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท) โดย *บิตคอยน์(BTC)* เป็นสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของพอร์ต มูลค่าถึง *22.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท) ขณะที่สินทรัพย์อื่นๆ ประกอบด้วยเหรียญเสถียรหลักอย่าง *เทเธอร์(USDT)*, *ไบแนนซ์คอยน์(BNB)* และ *ยูเอสดีคอยน์(USDC)*

อย่างไรก็ตาม ต้องเน้นว่า การถือครองสินทรัพย์เหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการลงทุนโดยตรงของรัฐบาล แต่เป็นผลจากการยึดทรัพย์ของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากการปราบปรามอาชญากรรมด้านไซเบอร์ นอกจากนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้จัดตั้งการสำรองบิตคอยน์ในเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นทางการ และระบุว่า *ETH* ก็ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์สำคัญในกองทุนดังกล่าวเช่นกัน

ขณะเดียวกัน ราคาอีเธอเรียมก็เริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง ตามข้อมูลจาก *คอยน์เกโก(CoinGecko)* ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคา ETH ปรับขึ้นมากกว่า *3%* โดยกลับมายืนเหนือระดับ *4,000 ดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 556,000 บาท) หลังจากที่เคยแกว่งใกล้ระดับต่ำกว่านี้ในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้ง *ในเดือนนี้เพียงเดือนเดียว ETH พุ่งขึ้นแล้วเกือบ 17%* ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า อีเธอเรียมอาจทำสถิติผลประกอบการสูงสุดในไตรมาสที่สามของปี

ความโปร่งใสของการเปิดเผยทรัพย์สินดิจิทัลของรัฐบาลสหรัฐฯ ครั้งนี้ ยิ่งทำให้ผู้คนในตลาดหันมาสนใจในแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สินดิจิทัลในระดับรัฐมากขึ้น "ความคิดเห็น" จากผู้เชี่ยวชาญในตลาดชี้ว่า การที่รัฐบาลถือครองสินทรัพย์จำนวนมหาศาล อาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกลไกตลาด โดยเฉพาะหากมีการขายหรือเคลื่อนไหวในอนาคต