อีเธอเรียม(ETH) กำลังได้รับแรงหนุนจากตลาด หลังราคากลับมาปิดช่องว่างของฟิวเจอร์สในตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก(CME) ได้สำเร็จ โดยหลายสัญญาณทางเทคนิคและข้อมูล ‘ออนเชน’ บ่งชี้ถึงโอกาส ‘ฟื้นตัวแรง’ ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มหันไปจับตาราคาแนวต้านถัดไปที่ระดับ ‘10,000 ดอลลาร์’ (ประมาณ 1,390,000 บาท)
ราคาของอีเธอเรียมได้ร่วงจากระดับประมาณ 4,600 ดอลลาร์ (ราว 6,394,000 บาท) ปรับฐานลงมาปิด ‘ช่องว่าง’ ของฟิวเจอร์สในช่วง 4,050–4,100 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,630,000–5,699,000 บาท) อย่างสมบูรณ์ ซึ่งการปรับลงครั้งนี้เกิดจากแรงขายจากการ ‘บังคับปิดสถานะ Long’ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์มักมองว่า CME GAP คือบริเวณที่ราคามักจะกลับมายืนได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ETH ฟื้นตัวสู่ระดับ 4,200 ดอลลาร์ (ราว 5,838,000 บาท) และกำลังแสดงสัญญาณ ‘สร้างฐานระยะสั้น’
นักวิเคราะห์ตลาดหลายรายมองว่าแนวโน้มทิศทางขึ้นกำลังกลับมา นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ CW ให้ความเห็นว่า “เราปิดสถานะ Long ไปเรียบร้อย และปิด GAP ได้แล้ว ตอนนี้ถึงคิวของฝั่ง Short ที่ต้องระวัง” ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองที่ว่า ETH ได้เข้าสู่ ‘ระยะฟื้นตัวระยะสั้น’
ในอดีต ช่องว่างใน CME เคยเป็นจุดดึงราคากลับเสมอ และทุกครั้งที่ปิด GAP ได้ ราคาก็มักปรับขึ้นเกิน 40% ในช่วงหลายสัปดาห์ถัดมา ซึ่งครั้งนี้ก็มีโอกาสเกิดรูปแบบคล้ายคลึงกันอีกครั้ง
ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค หลายเครื่องมือกำลังส่ง ‘สัญญาณบวก’ ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งอย่าง Merlijn The Trader กล่าวอย่างมั่นใจว่า “นี่ไม่ใช่แค่เสียงรบกวน แต่มันคือจุดออกตัวของจรวด” พร้อมชี้ว่า ETH เพิ่งทะลุแนวต้านขาลงระยะยาวที่ลากต่อเนื่องมานานกว่า 4 ปี อีกทั้ง ‘MACD รายเดือนกำลังเกิดโกลเดนครอส’ ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญสำหรับ ‘แนวโน้มขาขึ้นระยะกลางถึงยาว’
บนเครือข่ายบล็อกเชน สถานการณ์ ‘ปริมาณ ETH ในกระดานเทรดลดลงต่อเนื่อง’ กลายเป็นอีกปัจจัยสำคัญ นักวิเคราะห์ Cas Abbé ระบุว่า “ปริมาณ ETH บนกระดานเทรดตอนนี้ลดลงต่ำสุดในรอบ 9 ปี” พร้อมเสริมว่าทุนจากสถาบันกำลังไหลเข้าตลาด และหลายรายได้เคลื่อนสินทรัพย์ไปยัง ‘การถือแบบออฟเชน’ ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังมี ‘การสะสมหลักทรัพย์’ เกิดขึ้น ปัจจุบันปริมาณ ETH ในกระดานอยู่ในระดับเดียวกับตอนที่ราคาเพียง 30 ดอลลาร์เท่านั้น
Cas Abbé วิเคราะห์เพิ่มว่า สถานการณ์ในฝั่งอีเธอเรียม ‘ตึงตัว’ กว่าบิตคอยน์(BTC) ด้วยซ้ำ จากอุปทานที่ลดลงสวนทางกับสัญญาณบวกทางเทคนิค ซึ่งแปลว่า ‘ความต้องการในระยะยาว’ ของ ETH กำลังสะสมแรงกดดันให้ราคาปรับขึ้นในอนาคต
เมื่อมองภาพรวมทั้งหมด ทั้งการปิด GAP ใน CME, การลดลงของแรงขายในกระดาน, การทะลุเส้นเทรนด์ระยะยาว รวมถึงปัจจัยทางเทคนิคและออนเชน จึงสะท้อนว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นมากกว่าแค่การปรับฐานระยะสั้น แต่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ ‘10,000 ดอลลาร์’ ที่อาจใกล้ความจริงเข้าไปอีกขั้น โดยมี ‘โครงสร้างเทคนิคที่แข็งแรง’ และ ‘สภาวะอุปทานที่รัดตัว’ เป็นแรงส่งสำคัญในรอบนี้
ความคิดเห็น 0