ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
แม้โทเคน ‘ริปเปิล(XRP)’ จะสามารถสร้าง ‘จุดสูงสุดครั้งใหม่’ ในปีนี้ได้สำเร็จ แต่หลังจากร่วงลงกว่า 20% เมื่อไม่นานมานี้ ความกังวลในหมู่นักลงทุนก็เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง หลายคนจึงตั้งคำถามว่า XRP จะสามารถกลับไปทำ ‘จุดสูงสุดใหม่’ ได้อีกหรือไม่ ซึ่งคำถามนี้ถูกนำไปถามกับโมเดลปัญญาประดิษฐ์(AI) ชื่อดังถึง 4 แหล่ง และผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าสนใจไม่น้อย
ในช่วงปลายปี 2024 ราคาของ XRP พุ่งขึ้นจาก 0.6 ดอลลาร์ และทะลุระดับ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท) ได้สำเร็จ โดยในเดือนมกราคม 2025 XRP แตะระดับ 3.4 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็น ‘จุดสูงสุดของปี 2018’ ก่อนจะขยับขึ้นอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมมาสู่จุดสูงสุดใหม่ที่ 3.65 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,074 บาท)
อย่างไรก็ตาม จากนั้นเกิดแรงขายทำกำไรอย่างหนัก ทำให้ราคาย่อตัวลงมาที่ระดับ 2.8 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,892 บาท) โดยไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ 3 ดอลลาร์ได้ ส่งผลให้แนวรับดังกล่าวกลายเป็น ‘แนวต้านใหม่’ ขณะเดียวกันนักลงทุนพากันจับตาคำแถลงของ ‘เจอโรม พาวเวลล์’ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลต่อทิศทางของตลาด
ในสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อถาม AI ทั้ง 4 แหล่งว่า XRP จะสามารถกลับไปทำ ‘จุดสูงสุดใหม่’ ได้อีกครั้งเมื่อใด ผลปรากฏว่ากว่า ‘ครึ่งหนึ่งเชื่อว่าเป็นไปได้ภายในปีนี้’ โดย ‘Perplexity’ ให้ความเห็นว่า “โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง XRP มักแสดงแนวโน้มเชิงบวก” พร้อมประเมินว่าอาจทะลุระดับ ‘4.5–5.5 ดอลลาร์’ (ประมาณ 6,255–7,645 บาท) ได้
ด้าน ‘ChatGPT’ ของ OpenAI ระบุว่า แม้การคาดการณ์ดังกล่าวจะดูเกินจริง แต่หากมี ‘โมเมนตัม’ และ ‘ปัจจัยเร่ง’ ที่เพียงพอ ก็ “มีโอกาสเกิดจุดสูงสุดใหม่ภายในสิ้นปี” ได้เช่นกัน ขณะที่ Grok ซึ่งเป็น AI ของ X(เดิมชื่อทวิตเตอร์) ก็ประเมินสอดคล้องกัน โดยชี้ถึง ‘การขยายการลงทุน’ และ ‘การจับมือกับพันธมิตรใหม่’ ของริปเปิลว่าอาจเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ และเชื่อว่า XRP มีแนวโน้ม ‘ทะลุระดับ 4 ดอลลาร์’ (ประมาณ 5,560 บาท)
แต่ก็มีมุมมองที่แตกต่าง โดย Gemini ให้ความเห็นว่า XRP “อาจเติบโตอย่างช้าๆ เหมือนกับอีเธอเรียม(ETH)” ซึ่งถึงแม้จะได้รับ ‘การอนุมัติ ETF’ แล้ว แต่การไหลเข้าของเงินทุนสถาบันยังต้องใช้เวลา ข้อสังเกตในเชิง ‘ความคิดเห็น’ ก็คือ แม้การอนุมัติ ETF จะเป็น ‘ข่าวดี’ สำหรับ XRP แต่ผลเชิงบวกนั้นอาจไปปรากฏในหลายปีข้างหน้า มากกว่าการกระตุ้นราคาทันที พร้อมเตือนด้วยว่า ทิศทางราคาในอนาคตยังขึ้นกับ “สภาวะเศรษฐกิจภายนอกและข้อกำกับดูแลที่ซับซ้อน”
ด้วยเหตุนี้ การคาดการณ์ของ AI ต่างๆ จึงมีทั้งมุมมอง ‘มองโลกในแง่ดี’ และ ‘ความระมัดระวัง’ ควบคู่กันไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มีความเห็นตรงกันคือ หากมีการเปิดตัว ‘XRP Spot ETF’ อย่างเป็นทางการในอนาคต ก็อาจกลายเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ช่วยผลักดันมูลค่าทรัพย์สินในระยะยาวได้ แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะส่งผลให้ XRP กลับไปแตะจุดสูงสุดใหม่ภายในปีนี้
ท้ายที่สุด การที่โทเคนอย่าง XRP จะสามารถกลับไปสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจมหภาค, กรอบกำกับดูแล, การดำเนินงานของบริษัทริปเปิล และความเชื่อมั่นของนักลงทุน โมเดล AI ได้สะท้อนความเป็นไปได้ในทิศทางที่หลากหลาย และนักลงทุนควรติดตามพัฒนาการเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อประกอบการตัดสินใจ
ความคิดเห็น 0