โคอินเบส(Coinbase) เผชิญภัยไซเบอร์ แฮกเกอร์เกาหลีเหนือแฝงตัวสมัครงานเจาะระบบ

โคอินเบส(Coinbase) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตสัญชาติสหรัฐฯ รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ตามปริมาณการซื้อขาย กำลังเผชิญกับภัยคุกคามด้าน ‘ความปลอดภัยทางไซเบอร์’ อีกครั้ง หลังมีรายงานว่า ‘แฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือ’ พยายามแฝงตัวสมัครงานในตำแหน่งงานระยะไกล เพื่อเข้าถึงระบบภายในของบริษัท

ตามรายงานเมื่อวันที่ 24 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเน้นให้เห็นถึงกลยุทธ์ใหม่ของ ‘กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ’ ในการแอบแฝงตัวเป็นบุคลากรด้านไอที พร้อมประวัติปลอม เพื่อลอบเข้าทำงานในบริษัทเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตทั่วโลก ความกังวลหลักอยู่ที่กลุ่มบุคลากรที่ทำงานจากต่างประเทศ เนื่องจากอาจกลายเป็น ‘จุดอ่อนของระบบรักษาความปลอดภัย’

ไบรอัน อาร์มสตรอง(Brian Armstrong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโคอินเบส ระบุว่าบริษัทกำลังทบทวนนโยบายความปลอดภัยจากภายในใหม่ทั้งหมด โดยพิจารณามาตรการเพิ่มเติมในการคัดกรองพนักงาน เช่น การจัดฝึกอบรมภาคบังคับแบบพบหน้าภายในสหรัฐฯ และการจำกัดสิทธิ์เข้าถึงระบบเฉพาะผู้ที่ถือ ‘สัญชาติสหรัฐฯ และผ่านการสแกนลายนิ้วมือ’ เท่านั้น

ความคิดเห็นของอาร์มสตรองที่เปิดเผยผ่านรายการพอดแคสต์ ‘Cheeky Pint’ ชี้ว่า “เกาหลีเหนือมีความสนใจในคริปโตอย่างมาก เพื่อหาเงินทุนสนับสนุนรัฐบาล” พร้อมเสริมว่าแม้โคอินเบสจะสามารถร่วมมือกับทางการสหรัฐฯ ได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับบุคลากรไซเบอร์ที่หลั่งไหลจากโรงเรียนฝึกแฮกเกอร์ของเกาหลีเหนือถึง ‘กว่า 500 คนต่อไตรมาส’ ซึ่งบางรายก็ถูกบังคับให้เข้าร่วมโดย ‘ครอบครัวของพวกเขาถูกนำมาเป็นเครื่องมือต่อรอง’

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือใช้หน่วยแฮกเกอร์ของตนในการขโมยคริปโตมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ แม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มใช้มาตรการตรวจสอบตัวตนผู้ใช้งาน (KYC) หรือจำกัด IP ต้นทางที่น่าสงสัยผ่านการใช้กฎ ‘Travel Rule’ แต่แฮกเกอร์ยังคงหาช่องว่างในระบบโดยอาศัย ‘การสมัครงานแบบปลอมตัว’ ซึ่งถือเป็น ‘จุดเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์’

การตอบสนองครั้งนี้ของโคอินเบสจึงอาจกลายเป็น ‘ตัวอย่างสำคัญ’ ที่สะท้อนแนวโน้มการเพิ่มความเข้มงวดด้าน ‘มาตรการรักษาความปลอดภัย’ ของแพลตฟอร์มระดับโลก ตอกย้ำบริบทใหม่ที่ ‘อุตสาหกรรมคริปโต’ กำลังถูกโยงเข้ากับ ‘ประเด็นความมั่นคงของรัฐ’ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง