ทาเล็บชี้ AI เขย่าการศึกษาแพทย์—อาจแทนที่คณะแพทยศาสตร์ในอนาคต

นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ(Nassim Nicholas Taleb) นักคิดและนักเขียนชาวอเมริกันเชื้อสายเลบานอน เจ้าของผลงานขายดีอย่าง *Black Swan* และ *Antifragile* กำลังสร้างความสนใจครั้งใหม่ ด้วยมุมมองเกี่ยวกับ ‘อนาคตของปัญญาประดิษฐ์(AI)’ และ ‘ผลกระทบต่อการศึกษาในแวดวงการแพทย์’

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทาเล็บออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์เดิม) โดยระบุว่า *AI อาจไม่เข้ามาแทนที่แพทย์โดยตรง แต่จะเปลี่ยนแปลงระบบการเรียนการสอนทางการแพทย์ครั้งใหญ่* โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้กับ *นักเรียนสายอิสระ* หรือผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง (autodidact) ทาเล็บชี้ว่า “AI ที่มีอยู่ในปัจจุบันมีศักยภาพในเชิงการศึกษาเหนือกว่าการใช้งานจริง และในอนาคตอาจถึงขั้นมาแทนที่คณะแพทยศาสตร์แบบดั้งเดิมได้” ความเห็นนี้สะท้อนถึง *การเปิดทางให้เกิดระบบการเรียนรู้ทางเลือกที่ไม่พึ่งพาใบรับรองหรือระบบสถาบันแบบเก่า*

ขณะเดียวกัน AI ก็กำลังแทรกซึมเข้าสู่ระบบการศึกษาในวงการแพทย์อย่างรวดเร็ว ทั้งในการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์, การจัดการข้อมูล และระบบช่วยวินิจฉัย ทาเล็บมองว่า เนื่องจากวงการแพทย์มีความละเอียดอ่อนและต้องการความรับผิดชอบสูง จึงมีแนวโน้มว่า AI จะถูกใช้เพื่อ *ยกระดับการเรียนรู้ภาคปฏิบัติและทฤษฎี* ก่อนที่จะถูกนำมาใช้ทดแทนการทำงานของมนุษย์โดยตรง

น่าสนใจคือ ทาเล็บซึ่งให้มุมมองเชิงบวกต่อ AI กลับมีจุดยืนกลับกันอย่างชัดเจนเมื่อพูดถึง *บิตคอยน์(BTC)* เขาเคยเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนแนวคิดการกระจายศูนย์กลางของบิตคอยน์ และถึงกับเขียนคำนำให้หนังสือ ‘The Bitcoin Standard’ แต่ตั้งแต่ช่วงปี 2021 เขากลับลุกขึ้นมาตำหนิคริปโตอันดับหนึ่งของโลกอย่างรุนแรง พร้อมกล่าวว่า “บิตคอยน์คือเนื้องอก และเป็นเครื่องตรวจจับคนโง่”

ในปีนี้ ทาเล็บยังคงย้ำท่าทีเดิม โดยเรียกบิตคอยน์ว่า “*ทิวลิปทางเทคนิค*” เปรียบเทียบกับฟองสบู่ทางการเงินครั้งแรกในศตวรรษที่ 17 ของเนเธอร์แลนด์ เพื่อเตือนถึง *ความร้อนแรงเกินเหตุและพฤติกรรมเก็งกำไรอันไร้เหตุผล* ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับแนวโน้มในตลาดที่มีการหันมาสนับสนุนบิตคอยน์มากขึ้น อาทิ แล็ร์รี ฟิงก์แห่งแบล็คร็อก และไมเคิล เซย์เลอร์แห่งไมโครสเตรจี ที่ต่างปรับท่าทีมาเป็นบวก

ความคิดเห็นจากทาเล็บกลายเป็นกรณีศึกษา *ที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของการวิเคราะห์เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI และบล็อกเชน* เขาไม่ได้มองแค่ตัวเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เน้นวิเคราะห์ *วิธีที่สังคมมนุษย์จะนำเทคโนโลยีนั้นมาใช้และกลืนกลายเข้าไปสู่ระบบหลักมากกว่า* แม้ไม่อาจฟันธงว่าแนวคิดของเขาจะเกิดขึ้นจริงเพียงใด แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ AI เริ่มเขย่าระบบการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญแล้วในวันนี้