ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีรวมถึงบิตคอยน์(BTC)กลับเข้าสู่ช่วงขาลงอีกครั้ง หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนกรกฎาคม โดยราคาบิตคอยน์ร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบประมาณ 7 สัปดาห์ อยู่ที่ 108,100 ดอลลาร์ หรือราว 15.02 ล้านบาท ส่วนมูลค่าตลาดรวมของคริปโตทั้งหมดหายไปราว 170,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 23.63 ล้านล้านบาท) ภายในวันเดียว
ดัชนี PCE ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตรงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่สิ่งที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดมากขึ้นคือ ‘ดัชนี PCE พื้นฐาน’ ที่ไม่รวมอาหารและพลังงาน ซึ่งพุ่งขึ้น 2.9% และสูงกว่าตัวเลขในเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย จึงทำให้ความหวังเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยถูกสั่นคลอน แม้ปัจจุบันตลาดยังคงให้น้ำหนักถึง 81% ว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน ทว่าบรรยากาศโดยรวมกลับแน่นิ่งลงอย่างชัดเจน
บิตคอยน์ซึ่งเคยพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 117,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16.26 ล้านบาท) หลังการประชุมแจ็กสันโฮลเมื่อสัปดาห์ก่อน กลับอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว โดยแม้จะพยายามดีดกลับที่ระดับ 111,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.52 ล้านบาท) แต่ก็ไม่สามารถต้านแรงขายได้ และร่วงสู่ระดับต่ำอีกครั้ง *ปัจจุบันนักวิเคราะห์มองว่ารอบขาขึ้นอาจต้องหยุดชั่วคราว*
ขณะเดียวกัน อีเธอเรียม(ETH) ก็ไม่สามารถต้านกระแสลบได้ โดยร่วงลงเกิน 3% เหลือเพียง 4,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.97 แสนบาท) ขณะที่ริปเปิล(XRP) ก็ปรับลงมาอยู่ที่ 2.83 ดอลลาร์ (ราว 3,930 บาท) ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของคริปโตทรุดลงเหลือเพียง 3.83 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 532.17 ล้านล้านบาท
ความผันผวนรอบนี้ยังส่งผลหนักต่อนักลงทุนที่ใช้ ‘เลเวอเรจสูงเกินไป’ โดยมียอดการถูกบังคับปิดโพซิชัน (Liquidation) ทะลุ 500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 6.95 พันล้านบาท ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และเว็บไซต์ OKX พบการบังคับขายครั้งใหญ่ในประวัติการณ์ มีโพซิชันมากกว่า 140,000 รายการถูกปิด ส่งสัญญาณความเสี่ยงด้าน *ความผันผวนของตลาด* ที่กำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
ในภาพรวม ตลาดคริปโตกำลังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับแนวโน้มของนโยบายการเงินจากธนาคารกลางอย่างใกล้ชิด นักลงทุนจึงควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจและท่าทีของ Fed อย่างใกล้ชิด และเพิ่มความระมัดระวังในการตัดสินใจซื้อขายในช่วงเวลานี้ *ความคิดเห็น*
ความคิดเห็น 0