สตาร์กเน็ต(STRK) ขัดข้องเมนเน็ตอีกครั้ง 2 ชม.ครึ่ง จุดกระแสกังวลเสถียรภาพเลเยอร์ 2

สตาร์กเน็ต(STRK) โซลูชันขยายระบบของอีเธอเรียม(ETH) กลับมาเผชิญปัญหาขัดข้องอีกครั้งบนเมนเน็ต สะท้อนข้อกังขาเกี่ยวกับความ *เชื่อถือได้ของเครือข่าย* ที่ยังคงตกเป็นเป้าจับตา โดยเฉพาะในปีนี้ที่เกิด ‘การชัตดาวน์’ หลายครั้ง สร้างความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับ *เสถียรภาพของบล็อกเชน*

เมื่อวันที่ 4 (เวลาท้องถิ่น) สตาร์กเน็ตต้องหยุดให้บริการบนเมนเน็ตเป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง 44 นาที ส่งผลให้ความเร็วในการสร้างบล็อกลดลงอย่างมาก เกิดการค้างคาของธุรกรรมในเครือข่าย โดยสาเหตุเกิดจาก *ซีเควนเซอร์(sequencer)* ซึ่งทำหน้าที่จัดลำดับและบรรจุธุรกรรมบนเชนเข้าบล็อก ไม่สามารถประมวลผลโค้ดแบบเก่าได้

จากข้อมูลของเว็บไซต์ติดตามสถานะเครือข่าย status.starknet.io ปัญหาในครั้งนี้เกิดจากการที่ ‘ซีเควนเซอร์’ ไม่สามารถจัดการกับโค้ด *Cairo0* ซึ่งเป็นภาษาการพัฒนาเวอร์ชันเก่าที่บางโครงการยังคงใช้งานอยู่ ขณะที่สตาร์กเน็ตกำลังเปลี่ยนฐานโค้ดไปสู่ *Cairo 1.0* ทำให้ปัญหา *การไม่รองรับย้อนหลัง* กลายเป็นความเสี่ยงแฝงที่อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของระบบ

แม้สตาร์กเน็ตจะประกาศแผน *ถ่ายโอนซีเควนเซอร์ไปสู่โครงสร้างแบบกระจายศูนย์* ในระยะยาวหลายครั้งแล้ว แต่ปัจจุบันยังพึ่งพาซีเควนเซอร์แบบรวมศูนย์ ส่งผลให้ยังตกอยู่ในความเสี่ยงของจุดล้มเหลวเดียว (Single Point of Failure หรือ SPOF) ความผิดพลาดรอบนี้จึงสะท้อนข้อจำกัดของโครงสร้างปัจจุบันอย่างชัดเจน

สตาร์กเน็ตถือเป็นหนึ่งในโซลูชัน *เลเยอร์ 2* ที่โดดเด่นในการแก้ไขปัญหาความสามารถในการรองรับธุรกรรมของอีเธอเรียม(ETH) โดยรองรับแอปพลิเคชัน on-chain หลากหลาย ตั้งแต่การเงิน เกม ไปจนถึง NFT อย่างไรก็ตาม การที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญเกิดปัญหาบ่อยครั้ง ได้จุดกระแสความกังวลว่าอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อ *การขยายตัวของระบบนิเวศ* ในอนาคต

*ความคิดเห็น:* อุตสาหกรรมคริปโตยังอยู่ในช่วงพัฒนา การทดสอบความมั่นคงผ่านเหตุการณ์เช่นนี้จึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การที่เสียงเรียกร้องให้เร่งผลักดันการกระจายศูนย์ของโครงสร้างหลักเพิ่มขึ้น อาจแสดงให้เห็นว่าสตาร์กเน็ตกำลังยืนอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ