โคอินเช็ค(Coincheck) บุกตลาดยุโรป! เข้าซื้ออัพโล(Aplo) ขยายบริการคริปโตสู่สถาบัน

โคอินเช็ค(Coincheck) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชั้นนำของญี่ปุ่น เตรียมขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดเศรษฐกิจยุโรป (EEA) อย่างจริงจัง ด้วยการเข้าซื้อกิจการของอัพโล(Aplo) บริษัทให้บริการคริปโตแบบไพรม์โบรกเกอร์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในปารีส ซึ่งเน้นให้บริการแก่นักลงทุนสถาบัน

กลุ่มโคอินเช็ค(Coincheck Group) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 ว่าบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นของอัพโล โดยจะนำหุ้นใหม่ของโคอินเช็คไปแลกกับหุ้นทั้งหมดของอัพโล การซื้อขายครั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมที่จะถึง

กลยุทธ์ดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกของโคอินเช็คในการขยายฐานลูกค้าทั้งรายย่อยและสถาบันไปยังตลาดต่างประเทศ โคอินเช็คยังระบุด้วยว่ากำลังพิจารณาการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมทั้งในและนอกประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี ใบอนุญาต และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ

อัพโลเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอย่างเป็นทางการกับสำนักงานกำกับตลาดการเงินของฝรั่งเศส (AMF) และอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตตามกฎระเบียบ MiCA ของสหภาพยุโรป จุดเด่นของอัพโลคือการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านการเทรดและแพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับลูกค้าสถาบัน โดยมีเฮดจ์ฟันด์ สถาบันการเงิน และบริษัทกว่า 60 แห่งเป็นลูกค้าหลัก

หลังการควบรวมกิจการ อัพโลวางแผนจับมือกับโคอินเช็คในการพัฒนาโซลูชันทางการเงินเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ครอส-มาร์จิ้น การเลื่อนการชำระราคา รวมถึงการขยายขอบเขตบริการผลิตภัณฑ์และสภาพคล่องไปยังภูมิภาคอื่น ๆ นอกจากนี้ อัพโลอาจเข้ามามีบทบาทในการเพิ่มสภาพคล่องบนแพลตฟอร์มของโคอินเช็คเองด้วย

แกรี ซิมานสัน(Gary Simanson) ซีอีโอของกลุ่มโคอินเช็ค แสดงความเชื่อมั่นว่า “การซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้เราได้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนสถาบันในยุโรป เราจะผสานจุดแข็งของทั้งสองบริษัท เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มคริปโตแบบ B2B2C สำหรับธนาคารและนักลงทุนสถาบันอย่างมีประสิทธิภาพ”

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากมีกระแสข่าวว่า โมเนกซ์ กรุ๊ป(Monex Group) บริษัทแม่ของโคอินเช็ค กำลังพิจารณาการออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับเงินเยนญี่ปุ่น โดยประธานมาซึโมโตะ โอคิ ระบุว่า “แม้การพัฒนาเหรียญสเตเบิลคอยน์จะต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานและเงินทุนจำนวนมาก แต่หากไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ก็มีโอกาสถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”

ในด้านผลประกอบการ โคอินเช็คยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผลรายได้ในไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา พุ่งขึ้นถึง *75%* จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการ *เข้าจดทะเบียนในตลาดแนสแด็ก* และการควบรวมกิจการที่ประสบความสำเร็จ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมปีที่แล้ว บริษัทได้ทำการ *จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กอย่างเป็นทางการ* ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการรุกตลาดระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบ