ตลาดคริปโตเผชิญ ‘เทขายครั้งใหญ่’ นักลงทุนรายย่อยถอนตัว วัฏจักร 4 ปีอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป

ตลาดคริปโตกำลังเผชิญกับการ ‘เทขายครั้งใหญ่’ ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยถอนตัวออกจากตลาด

แรน นูเนอร์(Ran Neuner) ผู้ก่อตั้ง ‘Crypto Banter’ กล่าวในงาน ‘Consensus Hong Kong 2025’ ว่า “หลังจากที่บิตคอยน์(BTC) มีอัตราครองตลาดเพิ่มขึ้นถึง 60% นักลงทุนเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายไปยังอัลต์คอยน์ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ ‘เทขายครั้งใหญ่’ โดยไม่คาดคิด”

สาเหตุของความปั่นป่วนในตลาดมาจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่าง ‘สหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก’ ทำให้ตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอน ส่งผลให้มีการชำระบัญชีสินทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.45 ล้านล้านวอน) ในวันเดียว โดยเฉพาะ ‘อีเธอเรียม(ETH)’ และอัลต์คอยน์หลักอื่น ๆ ที่ร่วงลงอย่างหนักสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อนักลงทุน นูเนอร์ย้ำว่า “ไม่มีใครคาดคิดว่าอีเธอเรียมจะร่วงแรงได้ขนาดนี้ภายในวันเดียว”

ในขณะที่ตลาดยังคงมีความผันผวนสูง นักลงทุนรายย่อยที่มาจากแพลตฟอร์ม YouTube ก็เริ่มลดความสนใจลง นูเนอร์เปิดเผยว่า “ยอดการเข้าชมคอนเทนต์คุณภาพของ ‘Crypto Banter’ ลดลง 25-33% เทียบกับช่วงตลาดกระทิงปี 2021” อย่างไรก็ตาม เขามองว่า “สุดท้ายแล้ว นักลงทุนรายย่อยจะกลับมา หากมีช่องทางสร้างรายได้ที่ชัดเจน”

อีกปัจจัยที่กระทบต่อตลาดคือกระแส ‘เหรียญมีม’ ที่ร้อนแรงจนเกินไป ซึ่งทำให้นักลงทุนเข้ามาแล้วออกจากตลาดอย่างรวดเร็ว นูเนอร์กล่าวว่า “นักลงทุนใหม่จำนวนมากพยายามเข้าสู่ตลาดคริปโต แต่กลับเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วย ‘การซื้อขายภายใน’ และ ‘บอทเทรด’ ส่งผลให้พวกเขาขาดทุนและต้องถอนตัว”

นอกจากนี้ กรณี ‘ลิเบรา(LIBRA)’ ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่ถูก ‘รู๊กพูล’ หรือการถอนเงินอย่างฉ้อฉล ส่งผลกระทบหนักต่อตลาด ข้อมูลจาก ‘Nansen’ ระบุว่านักลงทุนสูญเสียเงินไปกว่า 251 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.61 แสนล้านวอน) ยิ่งไปกว่านั้น ‘ฮาเวียร์ มิเลย์’ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ที่เคยโปรโมตเหรียญดังกล่าว ก็ถูกดึงเข้าไปพัวพันกับการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้สถานการณ์ตลาดยิ่งซับซ้อนขึ้น

นูเนอร์แสดงมุมมองว่า ตลาดคริปโตอาจไม่ดำเนินไปตาม ‘วัฏจักร 4 ปี’ แบบเดิมอีกต่อไป เขากล่าวว่า “ปริมาณบิตคอยน์ที่เข้าสู่ตลาดใหม่มีขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวม นั่นหมายความว่า โมเดลวัฏจักรแบบเดิมอาจใช้ไม่ได้อีกแล้ว” พร้อมชี้ว่าตลาดกำลังเข้าสู่ทิศทางใหม่ที่แตกต่างออกไป