นักลงทุนแห่เทเงินจากสเตเบิลคอยน์สู่โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP) และเหรียญ DEX หวังผลตอบแทนสูง

เมื่อกระแสตลาดคริปโตก้าวเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอย่างเต็มตัว นักลงทุนเริ่มเปลี่ยนทิศทางการลงทุน โดยลดสัดส่วนการถือครองเหรียญที่มีมูลค่าคงที่ พร้อมโยกย้ายเงินทุนเข้าสู่เหรียญทางเลือก ได้แก่ ริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL), โปรเจกต์การเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) และเหรียญของกระดานเทรดแบบกระจายศูนย์ (DEX) ตามข้อมูลจากรายงานการจัดสรรสินทรัพย์ไตรมาส 3 ปี 2025 ของกระดานเทรดคริปโตอย่างไบบิท(Bybit)

ข้อมูลจากรายงานระบุว่า สัดส่วนการถือครองสเตเบิลคอยน์ซึ่งอยู่ที่ 42.7% เมื่อเดือนเมษายน ลดลงเหลือ 35.42% ในเดือนมิถุนายน และร่วงลงต่อเนื่องเหลือเพียง 25% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งถือเป็นการลดลงถึง 17.7 จุดเปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่ของเงินทุนดังกล่าวถูกนำไป ‘จัดสรรใหม่’ ในกลุ่มอัลต์คอยน์ ขณะที่เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) รวมกันอยู่ที่เพียง 4% ซึ่งส่งผลในแง่บวกต่อเหรียญอย่างริปเปิล, โซลานา และเหรียญในกลุ่มเลเยอร์ 2

ไบบิทยังชี้ให้เห็นว่ากลุ่มนักลงทุนสถาบันมีแนวโน้ม ‘เชิงรุก’ มากกว่านักลงทุนรายย่อย โดยลดการถือครองสเตเบิลคอยน์ลงมาเหลือ 17.2% เพื่อมองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่า ส่วนรายย่อยยังคงถือครองในระดับสูงถึง 55.7% สะท้อนความแตกต่างในเชิงมุมมองการลงทุน

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บิตคอยน์ยังคงครองสัดส่วนการถือครองสูงสุดที่ 31.7% เพิ่มขึ้นจาก 28.4% เมื่อเดือนมกราคม แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ขณะที่อีเธอเรียมมีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดจาก 8.4% ในพฤษภาคม เป็น 10.1% ในสิงหาคม โดยไบบิทอธิบายว่าการเพิ่มขึ้นของอีเธอเรียมเกิดจากการเปลี่ยนสัดส่วนภายในกระเป๋าเงินจากสเตเบิลคอยน์ไปยัง ETH ไม่ใช่การไหลออกจากเหรียญใหญ่อื่น

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในกลุ่มเหรียญที่ได้รับประโยชน์สูงสุดในรอบไตรมาสคือเหรียญของกระดาน DEX ที่เพิ่มขึ้นจาก 0.4% ในเดือนมิถุนายน เป็น 1.8% ในเดือนสิงหาคม หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว โดยมี ‘แรงซื้อ’ จากนักลงทุนสถาบันเป็นปัจจัยหลัก และหากดูเฉพาะในกลุ่มสถาบัน สัดส่วนการถือครองเหรียญกลุ่มนี้พุ่งขึ้นเกือบ 7 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน

เหรียญในกลุ่มเลเยอร์ 2 ก็แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจาก 0.8% เป็น 2.1% ในไตรมาสเดียว ส่วนโทเคนที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์จริง (RWA) เริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น ขณะที่เหรียญมีมและเหรียญที่อ้างอิงมูลค่าทองคำยังคงมีระดับความสนใจเทียบเท่ากับไตรมาสก่อนหน้า

กระแสการเคลื่อนไหวของเงินทุนครั้งนี้เน้นให้เห็นว่า นักลงทุนโดยเฉพาะกลุ่มสถาบันกำลังแสวงหาทางเลือกในการกระจายพอร์ตออกจากบิตคอยน์ไปยังสินทรัพย์ที่มีศักยภาพให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ท่ามกลางความเชื่อมั่นต่อการเข้าสู่ตลาดขาขึ้นของคริปโตอย่างจริงจัง ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยังสนับสนุนแนวโน้มนี้ โดยมองว่า ตลาดอัลต์คอยน์อาจยังคงเป็นดาวรุ่งในช่วงเวลาต่อจากนี้