ลายม์ไวร์(LimeWire) บริษัทที่เคยเป็นแพลตฟอร์มแชร์เพลงชื่อดังในยุค 2000 และปัจจุบันผันตัวสู่ธุรกิจ *web3* ได้ประกาศเข้าซื้อสิทธิ์ในชื่อแบรนด์และสินทรัพย์ของ *ไฟเออร์เฟสติวัล(Fyre Festival)* เทศกาลดนตรีซึ่งเป็นที่รู้จักจากความล้มเหลวระดับตำนาน พร้อมเตรียมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ผ่านแนวทาง ‘คริปโต’ และเปิดตัวแพลตฟอร์มอีเวนต์ในโลกจริงโดยมีโทเคน *LMWR* เป็นศูนย์กลาง
เมื่อวันที่ 9 (เวลาท้องถิ่น) ลายม์ไวร์เปิดเผยว่าได้เข้าซื้อ *เครื่องหมายการค้า, โลโก้, ชื่อโดเมน และบัญชีโซเชียลมีเดีย* ของไฟเออร์เฟสติวัลเป็นที่เรียบร้อย โดยโครงการใหม่นี้จะไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับ *บิลลี แมกฟาร์แลนด์(Billy McFarland)* ผู้ก่อตั้งคนเดิมที่เคยถูกตัดสินจำคุกจากคดีฉ้อโกงเกี่ยวกับการจัดงานดังกล่าว
*มาร์คัส ไฟสเซิล(Marcus Feistl)* ประธานฝ่ายปฏิบัติการ(COO) ของลายม์ไวร์ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า ไฟเออร์เฟสติวัลเวอร์ชันใหม่นั้นจะเป็นงานออฟไลน์โดยเน้น ‘ประสบการณ์จริง’ สำหรับผู้เข้าร่วมงาน และเปิดให้ใช้งานโทเคน *ลายม์กรีน(LMWR)* เพื่อเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่าง ๆ “นี่ไม่ใช่เพียงการรีแบรนด์ แต่คือการสร้างบางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนร่วมกับเทคโนโลยีบล็อกเชน” ความคิดเห็นจากไฟสเซิล
ย้อนกลับไปในปี 2017 ไฟเออร์เฟสติวัลถูกโปรโมตเป็นเทศกาลดนตรีหรูหราที่จัดบนเกาะในบาฮามาส แต่กลับกลายเป็นหายนะเมื่อการเตรียมงานล้มเหลว ไม่สามารถให้บริการอาหารหรือที่พัก จนนำไปสู่ความโกลาหล ผู้ก่อตั้งอย่างแมกฟาร์แลนด์จึงถูกดำเนินคดีและรับโทษจำคุกในภายหลัง จนกลายเป็นกรณีศึกษาคลาสสิกของการตลาดแบบ ‘ไฮป์’ ที่ไร้เนื้อหา
“เราต้องการลบภาพลักษณ์เดิมและเปลี่ยนมันให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของบางสิ่งที่สร้างสรรค์และจับต้องได้” ไฟสเซิลยืนยัน พร้อมกล่าวว่า “อนาคตของไฟเออร์เฟสติวัลจะไม่จำกัดอยู่แค่ดิจิทัล แต่จะผสานระหว่าง ‘โลกจริง’ และเทคโนโลยี”
ลายม์ไวร์เคยเป็นซอฟต์แวร์ดาวน์โหลดเพลงแบบ P2P ชื่อดัง แต่ต้องปิดกิจการในปี 2010 เนื่องจากปัญหาด้านลิขสิทธิ์ จนในปี 2022 ได้กลับมาอีกครั้งในฐานะโปรเจกต์ *web3* โดยเน้นไปที่ตลาด NFT และการสร้างระบบนิเวศด้วยโทเคนลายม์กรีน(LMWR) การเข้าซื้อแบรนด์ไฟเออร์ครั้งนี้ จึงเป็นการขยายขอบเขตธุรกิจสู่ *แพลตฟอร์มอีเวนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน* อย่างเต็มรูปแบบ
ความคิดเห็น 0