บิตคอยน์(BTC) ถูกจับตาเป็นทางรอด หลังเงินเปโซอาร์เจนตินาร่วง 4.5% ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อรุนแรง

อาร์เจนตินาตกอยู่ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงและค่าเงินเปโซที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งสัญญาณพร้อมให้ความช่วยเหลือทางการเงิน อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สนับสนุน *บิตคอยน์(BTC)* หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่า มาตรการดังกล่าวอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างได้อย่างแท้จริง

เมื่อไม่นานมานี้ ค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินาร่วงลงมากกว่า 4.5% ภายใต้ความไม่มั่นใจต่อแนวทางปฏิรูปรัฐบาล ที่ขับเคลื่อนโดยประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิลเลย์ ด้วยความพยายามปรับโครงสร้างการคลังและเศรษฐกิจ ทว่า ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นในกรุงบัวโนสไอเรสเมื่อต้นเดือนสะท้อนถึงแรงสนับสนุนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น คดี ‘คอร์รัปชัน’ ของคนใกล้ชิดรัฐบาลยิ่งซ้ำเติมความวิตกของตลาด

บรรยากาศที่ไม่มั่นคงผลักดันให้นักลงทุนถอนตัวออกจากตลาดอย่างรวดเร็ว ทำให้ธนาคารกลางอาร์เจนตินาต้องใช้เงินสำรองระหว่างประเทศกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท) ภายใน 3 วัน เพื่อพยุงค่าเงิน ขณะที่เงินสำรองที่ยังสามารถนำมาใช้ได้มีอยู่เพียง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 2.78 แสนล้านบาท) เท่านั้น จึงถือเป็นภาระอย่างมากต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่า “อาร์เจนตินาเป็นพันธมิตรสำคัญในละตินอเมริกาอย่างเป็นระบบ” พร้อมเผยว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณาทางเลือกทั้งหมดเพื่อสนับสนุนเสถียรภาพของประเทศดังกล่าว โดยแนวทางที่อาจนำมาใช้ เช่น ข้อตกลงสวอปเงินตรา การซื้อขายสกุลเงินโดยตรงหรือผ่านตัวแทน และการใช้กองทุนเพื่อเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซื้อพันธบัตรรัฐบาลอาร์เจนตินา

อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับ ‘จังหวะดำเนินนโยบายการคลัง’ ของมิลเลย์ยังคงกระทบต่อความมั่นใจในตลาด พันธบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐของอาร์เจนตินาร่วงพร้อมกันหลายฉบับ บ่งชี้ถึงแรงกดดันจากแนวโน้มหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุน ซึ่งทำให้ ‘ความคาดหวังต่อเสถียรภาพในระยะสั้น’ ยังคงไม่แน่นอน

ในโลกคริปโต ผู้สนับสนุน *บิตคอยน์(BTC)* แสดงความเห็นว่าการเข้าแทรกแซงจากภายนอกไม่น่าจะช่วยคลี่คลายปัญหาเชิงโครงสร้างของอาร์เจนตินาได้ นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ควรเปลี่ยนไปสู่ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ ซึ่งอาจเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่า มีความเห็นเพิ่มเติมว่า *บิตคอยน์* และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ อาจกลายเป็นแหล่งเก็บมูลค่าทางเลือกในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจมหภาคเช่นนี้