คอยน์เบส(Coinbase) ชี้ 2 ปัจจัยหนุนตลาดคริปโตฟื้นตัวแรง ดอกเบี้ยขาลง-นักลงทุนสถาบันแห่เข้า

บริษัทคริปโตชื่อดังอย่าง *คอยน์เบส(Coinbase)* ได้ออกมาแสดงมุมมองในเชิงบวกต่อ *โอกาสฟื้นตัวอย่างรุนแรงของตลาดคริปโต* โดยชี้ว่ามีปัจจัยหลักอยู่ 2 ประการที่อาจกระตุ้นตลาด นั่นคือ *การลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)* และ *บทบาทที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบันและหน่วยงานบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล(DATs)*

เดวิด ดูออง(David Duong) หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนระดับโลกของ Coinbase Institutional กล่าวว่า ในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ ปัจจัยทั้งสองนี้ถือเป็น ‘ตัวเร่ง’ สำคัญที่จะดันตลาดคริปโตเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะนโยบายลดอัตราดอกเบี้ย 0.25 จุด ล่าสุดของเฟด รวมถึงแนวโน้มที่จะลดเพิ่มเติมในอนาคต อาจทำให้ตลาดมี ‘ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง’ เพิ่มขึ้น

บริษัทคอยน์เบสยังโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า “การลดอัตราดอกเบี้ยในรอบล่าสุดบวกกับสัญญาณของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เพิ่มโอกาสที่เงินจะไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตได้มากยิ่งขึ้น” โดยเฟดยังส่งสัญญาณว่าอาจลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้มากสุดถึง 3 ครั้งในปีหน้า สตีเฟน มิแรน(Stephen Miran) กรรมการเฟด ยังเห็นว่าดอกเบี้ยปัจจุบัน “สูงเกินความเหมาะสม” และเน้นถึงความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยอีกครั้งอย่างจริงจัง

เมื่อดอกเบี้ยต่ำ สินทรัพย์อย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ซึ่งมีความไวต่ออัตราดอกเบี้ย มีแนวโน้มจะได้รับการสนับสนุนจากฝั่งดีมานด์สูงขึ้น และการที่ DATs และนักลงทุนสถาบันยังคงเข้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลต่อเนื่อง ก็เป็นอีกแรงผลักสำคัญที่อาจส่งผลให้ตลาดคริปโตกลับมาแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม ตลาดในปัจจุบันยังเผชิญกับการพักฐาน โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการล้างเลเวอเรจสถานะออกจากตลาดถึง *ประมาณ 23,630 ล้านบาท (1.7 พันล้านดอลลาร์)* ทำให้บิตคอยน์และอีเธอเรียมปรับตัวลงอย่างรุนแรง โดยอีเธอเรียมร่วงลงถึงเกือบ 10% มาอยู่ที่ *ประมาณ 5.63 ล้านบาท (4,058 ดอลลาร์)* และมีสถานะซื้อถูกล้างไปมากกว่า *6,950 ล้านบาท (500 ล้านดอลลาร์)*

แม้จะเป็นเช่นนั้น ทาง *คอยน์เบสยืนยันว่า อีเธอเรียมยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอยู่* โดยปริมาณการถือครอง ETH ยังคงลดลง ในขณะที่ความต้องการด้านดีมานด์เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องของ ETF และจำนวน Stablecoin ที่พิมพ์ออกมาก็ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แสดงถึงโอกาสที่เงินทุนใหม่จะเข้ามาในเครือข่ายมากขึ้น

บริษัทยังชี้ว่า จากตัวชี้วัดต่างๆ เช่น กระแสเงินเข้า-ออก และอัตราระหว่างมูลค่าตลาดกับต้นทุนสะสม (MVRV) บ่งชี้ว่าแรงขายในระยะสั้นกำลังลดลง และยังไม่มีสัญญาณของภาวะฟองสบู่มากเกินไป ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ *โอกาสในการฟื้นตัวของตลาดในเร็ววัน*

การที่เฟดเริ่มเปลี่ยนนโยบายและนักลงทุนสถาบันเริ่มขยับตัวมากขึ้น อาจทำให้ตลาดกลับไปสู่ช่วงที่มี ‘โมเมนตัมขาขึ้น’ อีกครั้ง ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจึงให้ความสนใจว่าภายในหลายไตรมาสข้างหน้า การลงทุนในคริปโตในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงจะกลับมาได้รับความนิยมอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง ความคิดเห็นต่อภาพรวมนี้ยังคงเป็นบวกในระยะกลางถึงยาว