ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ(SEC) กำลังเข้าใกล้การตัดสินใจเกี่ยวกับการอนุมัติ *กองทุนรวมดัชชนีแบบซื้อขายได้ (ETF)* ของ *ริปเปิล(XRP)* ซึ่งกลายเป็นจุดสนใจใหญ่ของวงการคริปโตในขณะนี้ โดยบรรดาผู้จัดการกองทุนหลายแห่งเตรียมยื่นเอกสารเวอร์ชันสุดท้ายที่จะสะท้อนตามข้อกำหนดใหม่ของ SEC ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งการพิจารณาอนุมัติหรือปฏิเสธอาจเริ่มทยอยออกมาเร็วสุดในช่วงกลางเดือนตุลาคม
เอกสารรอบใหม่นี้ได้มีการปรับปรุงทางเทคนิคตามการแก้ไขข้อบังคับของ SEC เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นการเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาอย่างเป็นทางการ โดย *เกรย์สเกล(Grayscale)* จะเป็นรายแรกที่ถูกพิจารณาในวันที่ 18 ตุลาคม ตามมาด้วย 21Shares ในวันที่ 19, บิตไวส์(Bitwise) วันที่ 20, โคอินแชร์ส(CoinShares) และ คานารี่ แคปิตอล(Canary Capital) วันที่ 23 และ วิสดอมทรี(WisdomTree) ในวันที่ 24 เท่ากับว่าจะมีการประกาศผลของผู้ยื่นคำขอ ETF ถึง *5 รายภายในระยะเวลาเพียง 7 วัน*
ปัจจุบัน บนตลาดชิคาโก้ออปชัน(CBOE) มีการซื้อขาย ETF ของ REX-Osprey ซึ่งอิงกับริปเปิลอยู่แล้ว โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ *23.59 ดอลลาร์ต่อหน่วย* หรือราว *32,775 บาท* กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าทรัพย์สินรวมอยู่ที่ประมาณ *3,160 ล้านดอลลาร์* หรือราว *439,000 ล้านบาท* โดยมีการถือครอง XRP จริงอยู่ที่ *49.6%* ส่วน XRP ที่ออกโดยโคอินแชร์สมีสัดส่วน *41.8%* และอีก *9.7%* อยู่ในรูปของบริษัทลูกและการลงทุนทางอ้อม ซึ่งหมายความว่า *กองทุนดังกล่าวมีการลงทุนใน XRP ทั้งทางตรงและทางอ้อมเกือบทั้งหมด*
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หาก SEC อนุมัติผลิตภัณฑ์ XRP ETF ทิศทางการลงทุนที่เคยมีแต่รายย่อยอาจเปลี่ยนไปสู่ภาคสถาบันมากขึ้น ด้วยเหตุว่า ETF ที่ได้รับการควบคุมอย่างเป็นทางการจะเปิดทางให้สถาบันอย่างกองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกัน และผู้จัดการสินทรัพย์ขนาดใหญ่ เข้าสู่ตลาด XRP ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น *ความคิดเห็น:* การอนุมัติในครั้งนี้จึงอาจถือเป็นการยกระดับ XRP เข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลักอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี หากคำขอได้รับการปฏิเสธ นั่นจะสะท้อนให้เห็นว่า XRP ยังไม่สามารถสลัดปัญหาข้อพิพาทกับ SEC ออกไปได้ และอาจกลับเข้าสู่ภาวะชะงักงันอีกครั้ง
ไม่ว่าจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ ตลาดก็ได้กำหนดเป้าหมายไว้แล้วอย่างชัดเจน เพราะการตัดสินใจในเดือนตุลาคมนี้จะกลายเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญของ XRP* ซึ่งจะส่งผลต่อสถานะในภาคการเงินแบบมีการกำกับดูแล และมีโอกาสกำหนดทิศทางการลงทุนของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ไปในอีกหลายปีข้างหน้า
ความคิดเห็น 0