‘คริปโตมัม’ เฮสเตอร์ เพียร์ซ ชู NFT เล่าเบื้องหลังบทบาทใน SEC พร้อมฝากความหวังสู่อนาคตคริปโต

เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) กรรมาธิการจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) และเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงคริปโตในชื่อ ‘คริปโตมัม(Crypto Mom)’ ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่งานของศูนย์นโยบายด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง ‘คอยน์เซ็นเตอร์(Coin Center)’ โดยใช้การเปรียบเปรยที่แฝงอารมณ์ขันผ่าน *โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้(NFT)* เพื่อเล่าถึงแผนชีวิตหลังเกษียณและทบทวนนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลของตนในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง

แม้ว่าเพียร์ซจะสิ้นสุดวาระการเป็นกรรมาธิการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่เธอยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อได้อีกสูงสุด 18 เดือนตามกฎของวุฒิสภาที่เปิดโอกาสให้ทำงานต่อเนื่องจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้สืบตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เธอกล่าวติดตลกว่า “หลายคนถามฉันว่าแผนต่อไปคืออะไร... ออกจากรัฐบาลแล้วผันตัวเป็น *นักเคลื่อนไหวต่อต้านคริปโต* เลยก็คงได้ แต่ทางนั้นมีคนเดินไปก่อนฉันเยอะแล้ว” พร้อมเสริมว่าแผนในฝันคือ “การเลี้ยงผึ้ง เพราะน้ำผึ้งทั้งอร่อยและมีคุณค่า และที่สำคัญ ผึ้งยังดูนิ่งกว่า *คอมเมนต์บนทวิตเตอร์* เสียอีก”

เธอกล่าวต่ออย่างมีสีสันว่า “งั้นฉันคงต้องไปกับ *แผน C หรือจะแม่นยำกว่านั้นคือ แผน NFT*” โดยอธิบายว่านี่คือแนวคิดสร้าง NFT คอลเลกชันที่สะท้อนประสบการณ์การเผชิญหน้ากับบุคคลต่างๆ ใน *โลกคริปโต* ทั้งอินฟลูเอนเซอร์ คนในแวดวงการเงินดั้งเดิม และเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มักมีจุดยืนไม่ลงรอยกับนโยบายดิจิทัลจนเกิดความขัดแย้งไม่สบายใจ

เพียร์ซถือเป็นหนึ่งในสามกรรมาธิการจากฝั่งรีพับลิกันของ SEC และเป็นผู้ผลักดันนโยบายที่เป็นมิตรต่ออุตสาหกรรม *บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล* มาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ลงจากตำแหน่งประธาน SEC เมื่อเดือนมกราคม เธอเป็นแกนกลางในการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจสำหรับคริปโต และผลักดันให้เกิด *กรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนขึ้น*

ในช่วงสุดท้ายของสุนทรพจน์ เพียร์ซได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า NFT คอลเลกชันที่เธอจินตนาการไว้นั้นจะไม่เพียงมีภาพเหมือนตัวเอง แต่ยังรวมถึง CEO คริปโต ผู้นำโลกการเงินแบบดั้งเดิม และผู้มีบทบาทในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลคนอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ดี เธอกลับมาเป็นทางการอีกครั้งเมื่อกล่าวว่า “ระหว่างที่อยู่ใน SEC ฉันรู้สึกเสียดายที่พยายามยังไงก็ไม่สามารถโน้มน้าวเพื่อนร่วมงานให้เปิดประตูโอกาสให้พวกคุณได้มากกว่านี้” ทว่าเธอก็เน้นว่า “วันนี้คือยุคที่ภาครัฐเริ่มเข้าใจและต้องการ*ขจัดความคลุมเครือเพื่อมอบความชัดเจนให้กับอุตสาหกรรม*” พร้อมทิ้งท้าย่ด้วยความหวังว่าเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะ “ใช้มันในการสร้างระบบที่ให้ทั้ง ‘*ความปลอดภัยและความมั่งคั่ง*’ แก่ครอบครัวและชุมชนของทุกคน”

คำพูดของเพียร์ซจึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในสัญญาณสำคัญที่ช่วยสร้างกำลังใจให้ภาคคริปโตในช่วงที่การกำกับดูแลยังมีความไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเธอเลือกสื่อสารด้วย *NFT และการเปรียบเปรยที่เข้าใจง่าย* เพื่อสะท้อนมุมมองอย่างลึกซึ้งแต่ไม่ตึงเครียด ซึ่งความตั้งใจเช่นนี้อาจยังส่งอิทธิพลต่อวงการไปอีกพักใหญ่ แม้ว่าเธอจะก้าวออกจาก SEC แล้วก็ตาม