ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
แมตต์ แฮมิลตัน อดีตผู้ดูแลฝ่ายนักพัฒนาของริปเปิล(Ripple) ออกมาโต้การวิจารณ์จากผู้สนับสนุนบิตคอยน์(BTC) โดยระบุว่า *บัญชีแยกประเภท XRP(XRPL) ของริปเปิลมีโครงสร้างแฮชบล็อกเหมือนกับบิตคอยน์* และเป็น ‘บล็อกเชนที่แท้จริง’ จุดยืนนี้ของแฮมิลตันจุดชนวนให้เกิดข้อถกเถียงรอบใหม่ในวงการคริปโต เกี่ยวกับคำจำกัดความของเทคโนโลยีบล็อกเชน และสะท้อนความขัดแย้งระหว่างแนวคิดแบบ ‘บิตคอยน์แม็กซิมอลลิสม์’ และโปรเจกต์อื่นๆ
แฮมิลตันอธิบายผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) ว่า *XRPL ทำหน้าที่เก็บธุรกรรมในลักษณะคล้ายบล็อก* ที่มีการเชื่อมโยงกันผ่านแฮชของบล็อกก่อนหน้า ซึ่งให้ความมั่นคงด้านโครงสร้างข้อมูล พร้อมย้ำว่าเป็น *ระบบที่ใช้โครงสร้างและกลไกแฮชที่คล้ายกับบิตคอยน์*
ต้นเหตุของความขัดแย้งเกิดจากคำกล่าวของเดวิด มาร์คัส ซีอีโอของไลท์สปาร์ค(Lightspark) และผู้สนับสนุนบิตคอยน์รายหนึ่ง ที่ระบุว่าไม่มีโปรเจกต์ใดสามารถมาแทนที่บิตคอยน์ได้ โดยให้เหตุผลว่า *เครือข่ายที่ถูกสร้างด้วยการฟอร์กไม่สามารถรักษาคุณค่าความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ (immutability) และความเป็นกลาง* ได้อย่างแท้จริง พร้อมโจมตีว่าโปรเจกต์อื่นต่าง ‘ยอมเสียสละความเป็นกระจายศูนย์ (decentralization)’ เพียงเพื่อแลกกับความยืดหยุ่นที่มากขึ้น
แฮมิลตันไม่เห็นด้วยและย้ำว่า บิตคอยน์เป็นเพียงหนึ่งในนวัตกรรมของเงินดิจิทัลเท่านั้น พร้อมชี้ว่า XRPL เปิดให้ใครก็ได้สามารถรันโหนดได้ แตกต่างจากหลักฐานการทำงาน (Proof of Work) ที่ผูกขาดโอกาสนี้ไว้กับผู้ที่มีเงินทุนเพียงพอ เท่ากับว่า *XRPL อาจมีความกระจายศูนย์มากกว่า* นอกจากนี้ เขายังเสริมว่า หลังจากบิตคอยน์ผ่านการลดรางวัลการขุด (Halving) อีกสองครั้ง การทำเหมืองเพื่อรักษาเครือข่ายอาจไม่คุ้มทุนอีกต่อไป
ด้านมาร์คัสกลับแสดงความมั่นใจว่า *ราคาของบิตคอยน์ การประหยัดพลังงาน และการพัฒนาระบบชั้นที่สองจะผลักดันให้เกิดการเติบโตของอีโคซิสเต็ม* พร้อมดึงดูดผู้ขุดจากทั่วโลกมากขึ้น
ประเด็นถกเถียงนี้เกิดขึ้นหลังจากริปเปิลเพิ่งประกาศอัปเดตระบบครั้งสำคัญของ XRPL โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการย้ายข้อมูลครั้งใหญ่ โดยแนะนำให้ผู้พัฒนาและผู้ตรวจสอบธุรกรรมที่ใช้รายชื่อ UNL จากมูลนิธิ XRPL เดิม ให้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า *ก่อนวันที่ 30 กันยายน 2025* มิเช่นนั้นระบบอาจไม่สามารถโหลดรายการตรวจสอบได้
พร้อมกันนี้ XRPL ยังได้ติดตั้งชุดฟีเจอร์ใหม่ 3 รายการ ได้แก่ ‘fixAMMv1_3’, ‘fixEnforceNFTokenTrustlineV2’ และ ‘fixPayChanCancelAfter’ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ทั้งนี้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์การเงินแบบกระจายศูนย์ดิฟายลามา(DeFiLlama) ยังระบุว่า *มูลค่าล็อกสินทรัพย์ (TVL) บน XRPL เพิ่มจากประมาณ 1,251 พันล้านวอน เป็นราว 1,441 พันล้านวอน* ชี้ให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของนักลงทุนสถาบันรายใหญ่
แม้ XRPL ยังใช้กลไกฉันทามติที่ต่างจากบิตคอยน์ และไม่พึ่งพา Proof of Work แต่ข้อกังขาว่า *“บล็อกเชนที่ไม่ใช้การขุดยังถือว่าเป็นบล็อกเชนแท้จริงหรือไม่”* ยังคงไร้ข้อสรุป ทว่าเสียงโต้แย้งของแฮมิลตันครั้งนี้ ได้เปิดพื้นที่พูดคุยเรื่องความหลากหลายทางเทคโนโลยี และศักยภาพในการพัฒนาของโลกคริปโตอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0