บิตคอยน์(BTC) ทะลุ 120,000 ดอลลาร์ ดึงดูดนักลงทุนหลังตลาดเริ่มเข้าสู่เฟสสะสมใหม่

บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุระดับ 120,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.67 ล้านบาท) เป็นครั้งแรกในรอบ 13 วัน ท่ามกลางแรงขายของ *ผู้ถือระยะยาว* ที่เริ่มคลี่คลายลง โดยข้อมูลจากเครือข่ายบ่งชี้ว่า ตลาดอาจกำลังเข้าสู่ระยะ ‘สะสมใหม่’ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้ไม่น้อย

ข้อมูลออนเชนจากบริษัทวิเคราะห์อย่าง Glassnode ชี้ว่า อัตราส่วนมูลค่าใช้จริงของผู้ถือระยะสั้น (Realized Value to Transaction ratio หรือ RVT) มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่า ‘ความร้อนแรงของการเก็งกำไร’ เริ่มผ่อนคลาย โดยผู้ถือสินทรัพย์ในระยะสั้นเริ่มทำกำไรน้อยลงเมื่อเทียบกับปริมาณกิจกรรมในเครือข่ายโดยรวม ปกติแล้ว ค่า RVT ที่สูงมักสะท้อนภาวะตลาดร้อนแรง ขณะที่ค่า RVT ที่ลดต่ำลงบ่งชี้ถึง ‘การดีท็อกซ์ของตลาดโดยสมบูรณ์’ ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนระยะสั้นชะลอการขายเพื่อทำกำไร

แม้ว่าราคาของบิตคอยน์จะปรับตัวขึ้นมาอย่างโดดเด่น แต่แรงขายจากฝั่งผู้ถือระยะยาวกลับไม่รุนแรงเท่าที่คาด หลายคนเลือก ‘ถือไว้’ มากกว่าการขายออก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังไม่มีแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่าทีนี้ก็แสดงให้เห็นว่าสภาวะตลาดเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น การที่บิตคอยน์สามารถต้านแรงขายจากผู้ถือระยะสั้นและอยู่ในช่วงดูดซับผลขาดทุนได้ ถือเป็น ‘ฐานที่แข็งแรง’ สำหรับการเปลี่ยนเทรนด์ในระยะถัดไป

เมื่อพฤติกรรมของผู้ถือระยะยาวยังคงอยู่ในโหมด *เป็นกลาง* และผู้ถือระยะสั้นพร้อมยอมรับความเสี่ยงจากการขาดทุน นั่นอาจบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่บิตคอยน์จะเข้าสู่ **ช่วงทะลุแนวต้านสำคัญ** ได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยเฟสการเปลี่ยนผ่านนี้จะเป็นตัวกำหนดว่า บิตคอยน์จะสามารถยืนระยะเหนือระดับ 120,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคงหรือไม่ ซึ่งถือเป็นสัญญาณชี้วัดสำคัญของทิศทางตลาดในระยะต่อไป