นักวิเคราะห์ชี้ ริปเปิล(XRP) อาจกลับตัวขึ้น หลังความกลัว FUD แตะจุดพีคต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

บิตคอยน์(BTC)อาจกำลังเผชิญแรงกดดัน แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน ริปเปิล(XRP) กลับถูกจับตามองในฐานะสินทรัพย์ที่มีโอกาส *กลับตัวขึ้น* หลังจากจมอยู่ในภาวะ 'ความกลัว ความไม่แน่นอน และความสงสัย (FUD)' อย่างรุนแรงตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าความเชื่อมั่นที่ลดลงนี้ อาจสะท้อนถึง *จุดเข้าซื้อที่มีศักยภาพ*

ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน แซนทิเมนต์ (Santiment) ระบุว่า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีถึง 2 วันที่ความคิดเห็นบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับริปเปิล(XRP) มีโทน *ด้านลบมากกว่าบวก* แสดงให้เห็นว่าจิตวิทยาของนักลงทุนอยู่ในสภาวะตึงเครียดอย่างหนัก โดยอัตราส่วนของข้อความเชิงลบต่อเชิงบวกถึงจุดต่ำสุดที่ 0.74 เมื่อวันที่ 4 และฟื้นตัวเล็กน้อยเป็น 0.86 เมื่อวันที่ 6 ซึ่งแซนทิเมนต์มองว่า ตัวเลขในระดับนี้ถือเป็น 'จุดที่ตลาดตื่นตระหนก' และมักให้ *สัญญาณกลับตัวที่ดี*

FUD ในระดับนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 6 เดือนก่อน ขณะที่สหรัฐเปิดเผยนโยบายนำเข้าชุดใหม่ ส่งผลให้คริปโตจำนวนมากรวมถึง XRP ร่วงแรง ก่อนจะดีดกลับขึ้นแรงในระยะสั้นภายหลัง

จากมุมมองทางเทคนิค ริปเปิล(XRP) ยังคงทรงตัวอยู่บริเวณแนวรับสำคัญที่ *ประมาณ 4,170 วอน (3 ดอลลาร์)* ซึ่งเป็นแนวระดับเดียวกับแนวต้านของรูปแบบสามเหลี่ยมขาลง จึงอาจเกิดแรงเหวี่ยงในระยะสั้นได้ อย่างไรก็ดี เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ยังอยู่เหนือระดับราคาปัจจุบัน บ่งชี้ว่าทิศทางระยะกลางยังไม่เปลี่ยนเป็นขาลง ขณะที่ดัชนี RSI ก็เคลื่อนไหวในโซนกลาง แสดงถึงสภาวะไม่เปลี่ยนแรงไปทางใดทางหนึ่ง หากมีแรงซื้อใหม่ไหลเข้า ราคายังสามารถ *ฟื้นตัวต่อได้*

ในภาวะที่บรรยากาศในตลาดเป็นลบเช่นนี้ นักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘สมาร์ทมันนี่’ มักอาศัยจังหวะสร้างสถานะระยะยาว ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่า ความคิดเห็นเชิงลบที่พุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลัน สอดคล้องกับการลดพอร์ตของนักลงทุนรายย่อยที่เริ่ม ‘ตื่นตระหนก’ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ตลาดมักได้เห็นก่อนเกิดการกลับตัวในอดีต

แซนทิเมนต์ระบุเพิ่มเติมว่า หาก XRP ยังสามารถรักษาระดับราคาไว้ได้ที่ *ระหว่าง 4,030–4,170 วอน (2.90–3.00 ดอลลาร์)* และสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ *ประมาณ 4,310–4,450 วอน (3.10–3.20 ดอลลาร์)* ได้ ก็มีโอกาสสูงที่เกิด ‘แรงส่งกลับขาขึ้น’ อย่างชัดเจน ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์เชื่อว่าสภาวะแบบนี้คือช่วงเวลาแห่ง ‘การสะสม (accumulation)’ ไม่ใช่ ‘ตื่นตระหนก’ เป็นโอกาสสำคัญมากกว่าจะเป็นความเสี่ยง