ชิบะอินุ(SHIB) ขาดสภาพคล่องหนัก! นักลงทุนถอน 1.42 แสนล้านเหรียญ เสี่ยงลากราคาร่วงลึก

สภาพคล่องของเหรียญมีมชื่อดัง *ชิบะอินุ(SHIB)* บนตลาดซื้อขายแบบรวมศูนย์กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวนเหรียญมากกว่า 1.42 แสนล้าน SHIB หรือราว 152 ล้านบาทที่ถูกถอนออกจากกระดานหลัก ซึ่งทำให้เกิดกระแสกังวลเกี่ยวกับทิศทางของตลาด จากข้อมูล ‘ออนเชน’ ระบุว่าการถ่ายโอนเหรียญจำนวนมากนี้ อาจบ่งชี้ว่านักลงทุนบางรายกำลังโยกเหรียญไปเก็บไว้ที่กระเป๋าเก็บเย็น หรืออาจกำลังปิดสถานะเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งบอกถึงความไม่แน่นอน ทั้งในแง่ ‘สัญญาณบวก’ และ ‘สัญญาณลบ’

การที่ *ชิบะอินุ(SHIB)* ขาดสภาพคล่องบนกระดานนั้น กำลังนำไปสู่การตีความที่ขัดแย้งกัน โดยปกติแล้ว การถอนเหรียญออกจากกระดานเป็นสัญญาณที่ดีในแง่ของแรงขายลดลง มีโอกาสหนุนราคาฟื้นตัวได้ แต่ในกรณีนี้ ราคากลับถอยลงมาใกล้ระดับแนวรับระยะสั้นที่ 0.0000119 ดอลลาร์ หรือประมาณ 0.0165 บาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งนี้ ยังไม่มีสัญญาณของแรงซื้อจากนักลงทุนรายใหญ่หรือกระเป๋าปลาวาฬ ทำให้ศักยภาพการฟื้นตัวของความต้องการยัง ‘อ่อนแรง’

นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า *ภาวะสภาพคล่องต่ำในขณะนี้อาจกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงหากเกิดแรงขายรอบใหม่* เพราะเมื่อตลาดไม่มีเหรียญหมุนเวียน หากมีการขายออกมาก อาจลากราคาลงแรงกว่าปกติ สถานการณ์ยิ่งน่ากังวลเมื่อพิจารณาจากปัจจัยเทคนิค ที่ยังไม่แสดงสัญญาณกลับทิศ ราคายังไม่ฟื้นเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สำคัญ ขณะที่ ‘ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)’ ก็แกว่งอยู่ในโซนกลางโดยไร้ทิศทางชัดเจน

อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่สะท้อนตลาดแผ่วแรงคือ ‘ปริมาณการซื้อขาย’ ที่ลดลงชัดเจนในช่วงไม่กี่วันมานี้ บ่งชี้ว่าความสนใจจากผู้เล่นในตลาดลดลง และโมเมนตัมตลาดกำลังอ่อนตัว แม้ว่าการถอนเหรียญอาจช่วยบรรเทาแรงขายในระยะสั้น แต่ไม่ได้แปลว่าราคาได้สร้างฐานรองรับอย่างแข็งแกร่ง ความเคลื่อนไหวอาจยังคงผันผวนตามภาวะตลาดโลกและกระแสความเชื่อมั่น

ผู้เชี่ยวชาญในตลาดคริปโตระบุว่า หาก *ชิบะอินุ(SHIB)* ไม่สามารถกู้คืนความสนใจจากนักลงทุนได้ *เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี* เหรียญนี้อาจเผชิญกับแรงเหวี่ยงของราคาอย่างรุนแรงอันเนื่องจาก ‘ขาดสภาพคล่อง’ และถูกฉุดเข้าสู่แนวโน้มขาลงที่ชัดเจนมากขึ้น หากชุมชนผู้ใช้งานและนักพัฒนาไม่เร่งนำเสนอแผนฟื้นฟูหรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในระบบนิเวศ ก็อาจเกิด ‘แนวรับใหม่ที่ต่ำลง’ ภายในครึ่งปีหลังตามความเห็นของนักวิเคราะห์หลายฝ่าย