เกาหลีใต้เอาจริง! ลุยยึดคอลด์วอลเล็ต ปราบปรามผู้เลี่ยงภาษีคริปโตเข้มข้นขึ้น

กรมสรรพากรเกาหลีใต้เดินหน้าขยายขอบเขตการปราบปรามการ *เลี่ยงภาษีผ่านคริปโต* อย่างเข้มงวด พร้อมประกาศว่าจะรวมถึงการตรวจค้นและยึด ‘คอลด์วอลเล็ต’ หรือกระเป๋าคริปโตแบบออฟไลน์ ซึ่งสร้างความกังวลในกลุ่มผู้ใช้งานคริปโตทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 9 ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น Korea Times ระบุว่า เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเผยว่า หากระบบตรวจสอบธุรกรรมบ่งชี้ว่าผู้ต้องสงสัยซ่อนสินทรัพย์ไว้แบบออฟไลน์ ทางหน่วยงานจะดำเนินการ *ตรวจค้นที่อยู่อาศัย* พร้อมยึดเครื่องมือเก็บสินทรัพย์ เช่น ฮาร์ดดิสก์หรือคอลด์วอลเล็ต ทันที มาตรการนี้เกิดจากข้อจำกัดของการติดตามเฉพาะ *ธุรกรรมออนไลน์* ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบสินทรัพย์ทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน

ตามกฎหมายจัดเก็บภาษีในปัจจุบัน กรมสรรพากรมีอำนาจขอข้อมูลจากบัญชีที่ใช้บริการกับเว็บเทรดในประเทศ รวมถึงแช่แข็งบัญชีเพื่อแปลงทรัพย์สินเป็นมูลค่าตลาดแล้วนำมาชำระภาษี อย่างไรก็ดี นโยบายที่ลุกลามมาถึงคอลด์วอลเล็ตครั้งนี้ถือเป็น ‘อีกขั้น’ ของความพยายามในการ *ไล่บี้ผู้เลี่ยงภาษี*

คอลด์วอลเล็ต เป็นอุปกรณ์จัดเก็บคริปโตที่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จึงมีความปลอดภัยต่อการถูกแฮกมากกว่ากระเป๋าออนไลน์ แต่ในอีกด้านหนึ่ง กลับกลายเป็น ‘ช่องโหว่’ ที่ผู้เสียภาษีบางรายใช้เพื่อปกปิดทรัพย์สิน กรมสรรพากรจึงมองว่าอุปกรณ์เหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อภารกิจจัดเก็บภาษี

จำนวนนักลงทุนคริปโตในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากประมาณ 1.2 ล้านรายในปี 2020 มาอยู่ที่ราว 11 ล้านราย ณ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นกว่า *800%* ในช่วงเวลาเพียง 3 ปี ในขณะเดียวกัน มูลค่าการซื้อขายคริปโตในประเทศก็พุ่งจาก 1 ล้านล้านวอน (~7.3 หมื่นล้านบาท) เป็นกว่า 64 ล้านล้านวอน (~46 ล้านล้านบาท) ซึ่งนับเป็นวงเงินมหาศาลจนนำไปสู่กรณี *เลี่ยงภาษีผ่านคริปโต* ที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

จากข้อมูลในปี 2021 ที่เป็นปีแรกของการปราบปรามอย่างจริงจัง กรมสรรพากรตรวจพบผู้เลี่ยงภาษี 5,700 ราย และได้ยึดคริปโตมูลค่ากว่า 69.9 พันล้านวอน (~5 พันล้านบาท) ขณะที่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานสามารถยึดและแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลจากผู้กระทำผิดรวมกว่า *1.08 หมื่นล้านดอลลาร์* (~1.5 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 1.05 แสนล้านบาท)

รายงานจากสำนักงานวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของเกาหลีใต้ (FIU) ได้สะท้อนแนวโน้มที่ไม่สู้ดีนัก โดยพบว่าเพียงถึงเดือนสิงหาคม 2025 จำนวนรายการ ‘ธุรกรรมต้องสงสัย’ ที่บริษัทคริปโตในประเทศส่งรายงานมาอยู่ที่ *37,000 กว่ารายการ* ซึ่งมากกว่าทั้งปี 2023 และ 2024 แล้ว

‘รายงานธุรกรรมต้องสงสัย’ หรือ STR ถือเป็นเครื่องมือสำคัญของระบบ *ป้องกันการฟอกเงิน(AML)* ซึ่งบ่งบอกถึงการจับตาของรัฐที่มีแนวโน้มเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ

การลุกลามจากการเฝ้าระวังออนไลน์ไปสู่การ *ยึดเครื่องมือออฟไลน์อย่างคอลด์วอลเล็ต* ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล ตาม “ความคิดเห็น” ของหลายฝ่าย มาตรการนี้ทำให้ชัดเจนว่า ทางการเกาหลีใต้กำลังเร่งปิดช่องว่างของเทคโนโลยีที่อาจนำไปสู่การหลีกเลี่ยงภาษี และแนวโน้มนี้อาจแข็งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ ตามการพัฒนาอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมคริปโตในอนาคต