ชีบะอินุ(SHIB) ส่งสัญญาณฟื้นตัว! 6 ชี้วัดบนบล็อกเชนชี้แนวโน้มกลับตัวในไตรมาส 4 ปี 2025

แนวโน้มของชีบะอินุ(SHIB) เริ่มส่งสัญญาณบวก หลังข้อมูลบนบล็อกเชนเผย ‘6 ตัวชี้วัดหลัก’ กำลังฟื้นตัว ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน แม้ราคาจะยังคงเคลื่อนไหวแคบๆ อยู่ที่ระดับประมาณ $0.0000119 (ราว 1.7 บาท) แต่ดัชนีดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าพื้นฐานของระบบนิเวศกำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ตัวชี้วัดทั้งหกที่ว่าต่างปรับตัวสูงขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยสัญญาณที่น่าสนใจที่สุด คือ ‘การไหลออกจากกระดานเทรดสุทธิสูงถึง 3.85 พันล้านเหรียญ SHIB’ ซึ่งมักตีความได้ว่า นักลงทุนกำลังย้ายสินทรัพย์ไปเก็บในกระเป๋าเย็น (Cold Wallet) มากกว่าจะวางแผนขายในเร็วๆ นี้ คำอธิบายนี้บ่งชี้ถึงยุทธศาสตร์การถือครองระยะยาวและแรงกดดันด้านอุปทานที่ลดลง

ในด้านเครือข่าย การใช้งานยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จำนวนกระเป๋าเงินที่เคลื่อนไหวอยู่เพิ่มขึ้นเป็น 252 กระเป๋า เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 1.12% ในขณะที่จำนวนธุรกรรมเติบโต 1.09% การที่กิจกรรมเหล่านี้ขยายตัวสะท้อนถึง ‘ความถี่ของการมีปฏิสัมพันธ์’ ที่เพิ่มขึ้นในเครือข่าย ซึ่งมักเป็นหนึ่งในสัญญาณเบื้องต้นก่อนเข้าสู่ช่วงการมีส่วนร่วมเชิงบวกของตลาด

อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่น่าจับตามองคือ ‘อัตราเร็วของโทเคน (Velocity)’ ซึ่งเริ่มส่งสัญญาณบวกเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าผู้ถือครอง SHIB เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวสินทรัพย์อีกครั้ง ความเคลื่อนไหวนี้อาจกลายเป็นแรงสนับสนุนสำคัญสำหรับ 'การกลับตัวของแนวโน้มระยะยาว' และอาจเป็นรากฐานของการฟื้นตัวในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในแง่เทคนิค การระวังยังถือว่าจำเป็น โดยขณะนี้ SHIB ยังคงเคลื่อนไหวภายในกรอบ ‘สามเหลี่ยมขาลง (Descending Triangle)’ ที่ก่อตัวมาหลายเดือน และดัชนี RSI ยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 43 ซึ่งเป็นโซนที่แสดงถึงโมเมนตัมขาลง นอกจากนี้ ราคายังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 100 วัน ซึ่งแสดงว่า ‘สัญญาณการทะลุผ่านสำคัญ’ ยังไม่เกิดขึ้น หากราคาสามารถทะลุกรอบ $0.0000124~$0.0000128 (ราว 1.7–1.8 บาท) ได้อย่างมั่นคง ความเป็นไปได้ของการเดินหน้าขาขึ้นจะเพิ่มสูงขึ้น

แม้ SHIB จะยังไม่สามารถสร้างการดีดกลับชัดเจนในระยะสั้น แต่อย่างน้อย ‘สัญญาณพื้นฐานก็เริ่มพลิกเป็นบวก’ หากตัวชี้วัดบนบล็อกเชนเหล่านี้ยังคงเส้นคงวาหรือปรับตัวดีขึ้นอีก ก็มีโอกาสสูงที่ตลาดจะเข้าสู่ ‘ช่วงการฟื้นตัวครั้งใหม่’ ในไตรมาส 4 ของปี 2025 ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ความคาดหวังต่อ ‘โอกาสกลับตัวอย่างจริงจัง’ จึงเริ่มสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง