ชิบะอินุ(SHIB) ร่วงแตะจุดต่ำสุดรอบหลายปี นักวิเคราะห์เตือนแนวโน้มขาลงยังไม่จบ

ชิบะอินุ(SHIB) กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อสำคัญของคลื่นความผันผวนรอบล่าสุดในตลาดคริปโต เมื่อราคาทรุดลงอย่างหนักแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วกระดาน โดยแนวรับทางเทคนิคที่เคยรักษารูปร่างของชิบะอินุไว้ในกรอบราคานานนับปี ได้ถูกทลายลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนหดหายอย่างฉับพลัน

จากการเคลื่อนไหวล่าสุด ราคาของชิบะอินุร่วงทะลุแนวรับสำคัญที่ 0.000010 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.4 บาท) และหลุดออกจากรูปแบบสามเหลี่ยมที่เคยจำกัดการแกว่งตัวของราคา ซึ่งในภาวะที่แรงขายกดดันตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม ส่งผลให้เกิดการชำระบัญชีแบบเร่งด่วนและความกลัวที่กลับมาเล่นงานตลาดอีกครั้ง ชิบะอินุจึงเปลี่ยนจากแนวโน้มไซด์เวย์ไปสู่การ ‘ดิ่งลง’ อย่างไม่มีที่ท่าว่าจะฟื้นตัว

ปัจจุบันจุดอ่อนเชิงโครงสร้างของชิบะอินุเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเปรียบเทียบกับบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และมีกรณีใช้งานจริงรองรับ ในขณะที่ชิบะอินุยังคงถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ‘เหรียญเก็งกำไร’ ภาวะความไม่แน่นอนของตลาดในตอนนี้เป็นตัวเร่งให้ข้อจำกัดของ SHIB เปลือยเปล่าชัดเจนมากยิ่งขึ้น และแม้ปัจจัยภายนอกจะเปิดฉากวิกฤต แต่ตัวการหลักที่เร่งปฏิกิริยา คือ การขาดฐานรองรับจากภายใน

ในเชิงเทคนิค สัญญาณก็ไม่เป็นใจเช่นกัน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันเริ่มหันหัวลง ขณะที่ดัชนี RSI เคลื่อนเข้าใกล้ระดับ 30 ซึ่งเป็นโซน ‘ขายมากเกินไป’ แม้ปกติแล้วอาจมองว่าเป็นโอกาสการฟื้นตัว แต่ในกรณีนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าการรีบาวด์จะเกิดขึ้นโดยไม่มีแรงสนับสนุนรูปธรรม หากไม่มีเม็ดเงินใหม่หรือข่าวสารเชิงบวกเข้ามาช่วยหนุน ราคาชิบะอินุอาจถอยกลับไปหาแนวรับถัดไปที่บริเวณ 0.000008 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 บาท)

นักวิเคราะห์บางรายเสนอว่า หากชิบะอินุต้องการกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง จำเป็นต้องก้าวข้ามภาพจำของการเป็นแค่ ‘มิ้มคอยน์’ การขยายระบบนิเวศ เพิ่มกรณีใช้งานจริง หรือความสามารถในการสร้างมูลค่าเป็นสิ่งที่ต้องเกิด ไม่เช่นนั้นไม่เพียงแต่ราคาจะไม่ฟื้นตัว แม้แต่การดำรงอยู่ต่อในตลาดก็อาจเป็นสิ่งที่ท้าทาย โดยปัจจัยชั่วคราวอย่างธีม NFT หรือเมตาเวิร์สที่เคยช่วยกระตุ้นราคาในอดีต ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อีกต่อไปแล้ว

ท้ายที่สุด ชะตากรรมของชิบะอินุจะไม่ได้ถูกตัดสินจากเพียงเรื่องนโยบายกำกับดูแล สภาพคล่อง หรือแนวโน้มภายนอกเท่านั้น แต่อยู่ที่ ‘สามารถสร้างมูลค่าภายในได้หรือไม่’ ท่ามกลางกระแสที่โครงการบล็อกเชนต่างหันมามุ่งเน้นกรณีใช้งานที่ชัดเจน หากชิบะอินุยังไม่สามารถเล่าเรื่องใหม่ให้กับตลาดได้ แนวโน้มขาลงระยะยาวอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้