ไอโอเท็กซ์(IoTeX) ผนึก AI กับ DePIN ดันโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต

ไอโอเท็กซ์(IoTeX) เดินหน้าขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างจริงจังพร้อมชูบทบาทในตลาด **DePIN** หรือเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายศูนย์ โดยรายงานล่าสุดจากบริษัทวิจัยด้านคริปโตระดับโลก *เมสซารี รีเสิร์ช(Messari Research)* เปิดเผยว่า ไอโอเท็กซ์กำลังต่อยอดสู่แพลตฟอร์ม AI แห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนบนเทคโนโลยีเว็บ3 ด้วยศักยภาพในการเชื่อมต่อข้อมูลจากโลกจริงเข้าสู่ระบบ AI อย่างแยบยล

แพลตฟอร์มของไอโอเท็กซ์ถูกออกแบบเป็นโครงสร้างพื้นฐานแบบโมดูลาร์ 5 ส่วน ได้แก่ การยืนยันตัวตนแบบกระจายศูนย์ (ioID), การพิสูจน์ข้อมูล (W3bstream), การรวบรวมข้อมูล (Quicksilver), ปัญญาประดิษฐ์เฉพาะสาขา (Realms) และระบบ Layer-1 สำหรับประมวลผลธุรกรรม ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งผ่านเครือข่าย DePIN ซึ่งเป็นแหล่งป้อนข้อมูลแบบเรียลไทม์ จากนั้นบล็อกเชนจะทำหน้าที่ยืนยันและจัดโครงสร้างข้อมูล ก่อนที่ AI agent จะนำไปสังเคราะห์เพื่อสร้างอินเทลลิเจนซ์ในรูปแบบต่างๆ

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือระบบ *ioID* ที่มีอัตราเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนกันยายน 2025 จำนวนเจ้าของอุปกรณ์บนระบบเพิ่มจาก 167 เป็น 3,170 ราย คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 1,697% ภายใน 12 เดือน ขณะที่จำนวนอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนทะลุ 12,100 เครื่อง เพิ่มขึ้น 337% ในช่วงเดียวกัน ตัวเลขนี้บ่งชี้ว่า ‘การยืนยันตัวตนอุปกรณ์แบบออนเชน’ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในด้านการจัดการข้อมูล *Quicksilver* ทำหน้าที่เป็นฟรอนต์เอนด์ในการรับและจัดรูปแบบข้อมูล โดยในเดือนสิงหาคม 2025 มีการร้องขอใช้งานเฉลี่ยถึง 1,137 ครั้งต่อวัน เพิ่มขึ้น 291% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการนำโครงสร้างดังกล่าวไปใช้งานจริงโดยเฉพาะในกลุ่ม AI agent เช่น DePIN Agent ที่ใช้ตอบสนองต่อข้อมูลบนบล็อกเชน และ Weather Agent ที่ดึงข้อมูลสภาพอากาศแบบเรียลไทม์

ในครึ่งหลังของปี 2025 ไอโอเท็กซ์ยังขยายการร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมอย่างแข็งขัน โดยในเดือนกรกฎาคม ได้จับมือกับบริษัทยูพาวเวอร์(U Power) ผู้ให้บริการแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อทดลองระบบสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่บริหารจัดการผ่าน DePIN ซึ่งจะจัดเก็บข้อมูลสมรรถนะพร้อมให้ AI นำไปวิเคราะห์ ด้านบริษัทโทรคมนาคมอย่างโวดาโฟน(Vodafone) ก็ได้เริ่มต้นโครงการแปลงหน่วยประมวลผลของสถานีฐานให้สามารถนำไปใช้งาน AI เพื่อฝึกโมเดลอัจฉริยะได้

ระบบ Realms ของไอโอเท็กซ์ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหัวใจสำคัญของการฝึก AI ให้มีความเข้าใจเฉพาะด้าน โดยเฉพาะในแวดวงจราจร ซึ่งมีการนำข้อมูลจากถนน, ยานพาหนะ และสภาพอากาศมารวมกันเพื่อสร้างโมเดลวิเคราะห์สถานการณ์ที่ซับซ้อนได้อย่างชาญฉลาด ซึ่ง *เมสซารี รีเสิร์ช* มองว่า ระบบนี้จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับความแม่นยำและประโยชน์ใช้สอยของเทคโนโลยี AI

เพื่อรองรับโหลดข้อมูลและประมวลผลแบบเรียลไทม์ ไอโอเท็กซ์ยังได้ปล่อยอัปเกรด *v2.2.0* เมื่อเดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งช่วยลดเวลาการสร้างบล็อกเหลือเพียง 2.5 วินาที พร้อมเพิ่มความสามารถในการประมวลผลได้สูงสุด 2,000 ธุรกรรมต่อวินาที นอกจากนี้ โครงการยังเร่งพัฒนากลไกลงโทษตัวแทนโหนดที่ประสิทธิภาพต่ำเพื่อเสริมความมั่นคงของเครือข่ายอย่างรอบด้าน

ความมุ่งมั่นของไอโอเท็กซ์ไม่ได้หยุดแค่ในแวดวงคริปโต แต่กำลังขยายบทบาทสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง ด้วยการนำระบบนิเวศที่ขับเคลื่อนด้วย ‘ข้อมูลที่ตรวจสอบได้’ มาประยุกต์ใช้งานในหลากหลายด้าน เช่น โลจิสติกส์, พลังงาน, สุขภาพ และหุ่นยนต์ ซึ่งทุกระบบล้วนมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกและการตัดสินใจของ AI

*เมสซารี รีเสิร์ช* สรุปว่า IoTeX กำลังพัฒนาไปเป็นแนวหน้าในการเชื่อมต่อโลกแห่งความจริงเข้ากับระบบ AI บนบล็อกเชน เครือข่ายที่ครอบคลุมตั้งแต่การเก็บข้อมูล, การยืนยัน, การจัดการ ไปจนถึงการใช้งาน ช่วยยกระดับศักยภาพของการผสานระหว่าง AI และ DePIN ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการครองความเป็นผู้นำในเศรษฐกิจ AI แห่งอนาคต *ความคิดเห็น: การผนวก AI กับข้อมูลออนเชนที่เน้นความโปร่งใสน่าเชื่อถือ อาจกลายเป็นการเปลี่ยนเกมของอุตสาหกรรมทั้งระบบ*