ตลาดซื้อขายไอเทมภายในเกม ‘เคาน์เตอร์-สไตรก์ 2(Counter-Strike 2)’ ซึ่งเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งยอดนิยมระดับโลก กำลังเผชิญกับภาวะ ‘ร่วงแรง’ หลังจากการอัปเดตระบบเกมครั้งใหญ่ แม้เศรษฐกิจของสกินไอเทมในเกมจะเคยมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 578 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,034 ล้านบาท) แต่ล่าสุดมีรายงานว่าความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปถึง 2 พันล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 2.8 หมื่นล้านบาท
ยูโรเกมเมอร์ (Eurogamer) ซึ่งเป็นสื่อด้านอีสปอร์ต รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า การเปลี่ยนแปลงระบบการสร้างสกินใหม่คือสาเหตุหลักของการร่วงหนักดังกล่าว โดยเกมเมอร์สามารถนำสกินระดับล่างจำนวน 5 ชิ้นมารวมเป็นไอเทมหายากประเภทมีดหรือถุงมือได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ไอเทมเหล่านี้หาได้ยากมาก ส่งผลให้ราคาของพวกมันตกลงอย่างรวดเร็วหลังจากจู่ๆ มีการ ‘เพิ่มอุปทาน’ อย่างฉับพลัน
อย่างไรก็ดี ความต้องการสกินระดับล่างเพิ่มสูงขึ้น เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการแลกเปลี่ยน ทำให้บางรายการเริ่มมีราคาสูงขึ้น ตลาดจึงเกิดการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน
ตัวอย่างนี้ยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับจุดเริ่มต้นแนวคิดเรื่องบล็อกเชนอีกด้วย โดย *วิตาลิก บูเตริน(Vitalik Buterin)* ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) เคยกล่าวว่า ประสบการณ์จากเกม ‘เวิลด์ ออฟ วอร์คราฟต์(World of Warcraft)’ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อทีมพัฒนาเกมลบสกิลวิเศษที่เขาชื่นชอบออกจากตัวละครวอร์ล็อก เขายอมรับว่า “ในคืนนั้นผมน้ำตาไหลตอนนอนหลับ เพราะรู้สึกได้ถึงอันตรายของระบบศูนย์กลาง” ความไม่พอใจดังกล่าวกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง *ระบบบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์* หรือที่เรียกว่า บล็อกเชน
ความเปลี่ยนแปลงในตลาดสกินของเคาน์เตอร์-สไตรก์ 2 ครั้งนี้ จึงอาจกลายเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาสำหรับวงการเกมที่กำลังพัฒนาระบบเศรษฐกิจโดยใช้ NFT หรือการออกแบบโครงสร้าง ‘สินทรัพย์ที่ถูกโทเคน’ ในอนาคต ‘ความหายาก’ และ ‘มูลค่าทางดิจิทัล’ คือสิ่งที่นักพัฒนายังต้องหาวิธีควบคุมและดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ ความคิดเห็น: นี่สะท้อนถึงความจำเป็นในการออกแบบระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ที่สามารถรักษาสมดุลระหว่างความโปร่งใส ความหายาก และแรงจูงใจของผู้ใช้อย่างยั่งยืน
ความคิดเห็น 0