ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
กระแสการซื้อบิตคอยน์(BTC)จากนักลงทุนสถาบันหายไปแทบหมดหลังการปรับฐานเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยโคอินเบส (Coinbase) รายงานว่าความต้องการซื้อจากบริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล (DAT) ลดลงถึงระดับต่ำสุดของปี และตลาดกำลังอาศัยเพียงความต้องการจำกัดจากฝั่งอีเธอเรียม(ETH) ซึ่งอาจไม่มีเสถียรภาพเพียงพอที่จะพยุงตลาดคริปโตโดยรวมได้
เดวิด ดวง(David Duong) หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์จากโคอินเบสเปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม การเข้าซื้อบิตคอยน์จาก DAT แทบไม่หลงเหลืออยู่ในตลาด แม้ในช่วงที่ราคามีการฟื้นตัวแบบประปราย แต่บริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้ก็ยังไม่กลับเข้ามาซื้อเพิ่ม โดยเฉพาะในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อสะสมของบิตคอยน์โดย DAT ลดลงจนใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดของปี 2024
แม้ DAT ที่เกี่ยวข้องกับอีเธอเรียมจะยังคงซื้อสินทรัพย์อยู่ แต่ดวงตั้งข้อสังเกตว่า การซื้อส่วนใหญ่เป็นน้ำหนักจากบริษัทเดียวคือ ‘บิตมายน์ (Bitmine, BMNR)’ ขณะที่ผู้เล่นรายอื่นส่วนใหญ่เป็นกองทุนขนาดเล็ก เขาเตือนว่า หาก BMNR ลดความเร็วหรือหยุดซื้อ อีเธอเรียมอาจจะสูญเสียแรงสนับสนุนจากสถาบันทันที
ในขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวจากบริษัทที่เคยเป็นผู้ซื้อหลักของบิตคอยน์อย่างสตราทีจี (Strategy) ภายใต้การนำของไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ก็เริ่มเงียบลง มาร์ทุน(Maartunn) นักวิเคราะห์สายออนเชนเปิดเผยว่า แม้ Strategy ยังคงซื้อ BTC อยู่ แต่ปริมาณซื้อก็ลดลงชัดเจน โดยในสัปดาห์นี้ซื้อเพียง 390 BTC หรือประมาณ 43.4 ล้านดอลลาร์ (ราว 603 พันล้านวอน) ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่ซื้อทีละเป็นพัน BTC
ขณะเดียวกันบางบริษัทกลับเลือกใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก อาทิ พรีเนติกส์ โกลบอล (Prenetics Global) ซึ่งสามารถปิดการเสนอขายหุ้นมูลค่า 48 ล้านดอลลาร์ (ราว 667 พันล้านวอน) ได้เกินยอด โดยเงินส่วนหนึ่งจะถูกนำไปซื้อบิตคอยน์และขยายแบรนด์ IM8 โดยมีกองทุนชื่อดังในวงการอย่างคราเคน, อิกโซดัส และ GPTX เข้าร่วมลงทุน ทั้งนี้นักเทนนิสชื่อดัง อารีนา ซาบาเลนกา และเศรษฐีฮ่องกงอย่างเอเดรียน เชิง ต่างก็เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในรอบนี้เช่นกัน
ด้านบริษัทที่โดดเด่นในวงการอย่าง อเมริกันบิตคอยน์ (American Bitcoin Corp.) ซึ่งก่อตั้งโดยโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 1,414 BTC ส่งผลให้บริษัทถือครองรวมเป็น 3,865 BTC มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิราว 450 ล้านดอลลาร์ (6,255 พันล้านวอน) และอยู่ในอันดับที่ 26 ของบริษัทสาธารณะที่ถือบิตคอยน์มากที่สุดในโลก อ้างอิงจากข้อมูลของบิตคอยน์เทรชเชอรีส์
เมื่อปริมาณความต้องการจากฝั่งสถาบันที่เคยส่งเสริมราคาบิตคอยน์หดหายลง ในขณะที่ฝั่งอีเธอเรียมยังเปราะบาง ตลาดจึงอยู่ในภาวะเสี่ยงและอาจจำเป็นต้องรับมือด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ ‘ป้องกันความเสี่ยง’ ช่วงระยะสั้น ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ มองว่าทิศทางตลาดขณะนี้จะพึ่งพาการตัดสินใจของนักลงทุนสถาบันอีกครั้งว่าจะกลับเข้ามาซื้อเมื่อใด — หรืออาจไม่มีวันนั้นอีกเลย.
ความคิดเห็น 0