บิตคอยน์(BTC)ไม่สามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องหลังจากฟื้นตัวในช่วงสุดสัปดาห์ โดยหลังจากแตะระดับ 116,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.61 ล้านบาท) ราคาก็ปรับตัวลงอีกครั้ง ปัจจุบัน บิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงที่เรียกว่า ‘CME Gap’ ระหว่าง 111,400 ถึง 113,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.54 ถึง 1.57 ล้านบาท) บนตลาดซื้อขายฟิวเจอร์สของชิคาโก
แม้ราคาบิตคอยน์จะปรับฐาน แต่ ‘อัลท์คอยน์’ บางสกุลกลับปรากฏผลตอบแทนเป็นเลขสองหลัก โดยเฉพาะ FIGR_HELOC ซึ่งราคาพุ่งขึ้นถึง *40% ภายในวันเดียว* ขึ้นแท่นคริปโตที่ทำผลตอบแทนสูงสุด ขณะเดียวกัน เหรียญมีมที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์อย่าง ‘ทรัมป์(TRUMP)’ ก็ปรับขึ้น 12% และ ‘ปั๊มป์ฟัน(PUMP)’ ใกล้แตะ 10% กลุ่มเหรียญเหล่านี้กลายเป็นแรงสนับสนุนสำคัญของภาวะรีบาวด์ในตลาด
ในหมวดอัลท์คอยน์ขนาดใหญ่ เฮเดรา(HBAR) พุ่งขึ้น 14% ซึ่ง *ความคิดเห็น* ระบุว่าอาจเป็นผลจากความคืบหน้าเรื่องกฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) และข่าวเปิดตัว ETFs ที่อิงกับเฮเดรา TAO ก็ปรับขึ้นเกิน 10% เช่นกัน ตรงกันข้ามกับ Zcash(ZEC) ที่ร่วงลงกว่า 8%
ความผันผวนนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งช่วยลดความไม่แน่นอนบางส่วนในตลาด ผนวกกับความคาดหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ทำให้ราคาบิตคอยน์สามารถฟื้นตัวมาได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม หลังจากทะลุแนวต้าน 116,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ บิตคอยน์ก็เริ่มกลับทิศเป็นขาลงอีกครั้ง แม้จะมีคำกล่าวจากรัฐมนตรีคลังสหรัฐเกี่ยวกับการตกลงทางการค้ากับจีน แต่แรงขายในตลาดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น โดยตอนนี้ตลาดจับตาการเคลื่อนไหวบริเวณ ‘CME Gap’ ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มในระยะสั้น
เหรียญหลักส่วนใหญ่อย่าง อีเธอเรียม(ETH), ไบแนนซ์คอยน์(BNB), ดอจคอยน์(DOGE), โซลานา(SOL), คาร์ดาโน(ADA), ทรอน(TRX), เชนลิงก์(LINK), และ บิตคอยน์แคช(BCH) เริ่มปรับลงเล็กน้อย ซึ่ง *ความคิดเห็น* จากบางฝ่ายมองว่าเป็นการเทขายเพื่อทำกำไรของนักลงทุนสถาบัน
นอกจากนี้ มูลค่าตลาดรวมของคริปโตทั้งหมดลดลงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.95 ล้านล้านบาท) ภายในวันเดียว สู่ระดับ 3.95 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,495.5 ล้านล้านบาท) ท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้ระมัดระวังกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น ขณะเดียวกันสายตาของนักลงทุนยังจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญระดับโลกที่กำลังจะประกาศในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0