ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
เครือข่ายโมดูลาร์เลเยอร์ 1 ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง 0G กำลังกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบ ‘AI แบบกระจายศูนย์ (DeAI)’ ตามการวิเคราะห์ล่าสุดของเมซซารี รีเสิร์ช(Messari Research) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 โดยชี้ว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวรวมสามบริการหลัก ได้แก่ คอมพิวติ้ง, พื้นที่จัดเก็บ, และความพร้อมใช้งานของข้อมูล (Data Availability – DA) เพื่อสนับสนุนเวิร์กโฟลว์ของ AI ที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับแต่งโมเดล AI บนเครือข่ายแบบกระจาย
0G เปิดตัวเมนเน็ตและโทเคนพร้อมกันในเดือนกันยายน 2025 โดยใช้สถาปัตยกรรมเชนเฉพาะทางที่รองรับการพัฒนา AI อย่างเต็มรูปแบบ แพลตฟอร์มนี้รวมการจัดการเส้นทาง, ระบบสิทธิ์, และระบบการชำระเงินเข้าไว้ในโครงสร้างเดียว พร้อมแนะนำระบบ ‘.0G ไอดี’ ซึ่งช่วยให้มนุษย์และเอเจนต์ใช้ชื่อที่เข้าใจง่ายแทนที่อยู่แบบดั้งเดิม เพิ่มความชัดเจนในการโต้ตอบ นอกจากนี้ยังสามารถดึงดูดผู้ตรวจสอบเครือข่ายมากกว่า 100 รายในเฟสทดสอบ และได้พันธมิตรรายใหญ่เช่น AWS, กูเกิล คลาวด์ และบล็อกเดมอน ร่วมเข้าสู่ระบบนิเวศของ 0G
ระบบของ 0G ถูกออกแบบให้สามารถรันทั้งการอนุมาน (Inference) และการฝึกฝนโมเดล AI บนโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน ผู้ให้บริการแต่ละรายสามารถเสนอทรัพยากรแยกกัน แต่สามารถประสานงานผ่านเชนของ 0G ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงการส่งงาน รับงาน และการชำระเงินแบบออนเชน พร้อม API และ SDK แบบครอบจักรวาล ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึง GPU และพื้นที่จัดเก็บตามต้องการ ผู้ใช้ปลายทางสามารถเลือกผู้ให้บริการคอมพิวติ้งได้เอง และจัดเก็บผลลัพธ์แบบตรวจสอบได้ผ่าน Merkle hash พร้อมทั้งเลือกวิธีจัดการความซ้ำซ้อนและลดเวลาแฝงได้ตามต้องการ
‘0G Compute’ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการหลักของเครือข่าย สนับสนุนโมเดลภาษาใหญ่ เช่น ลามา-3 70B(Llama-3 70B) สำหรับทั้งการอนุมานและการฟื้นฟูโมเดล (Fine-tuning) โดยผลลัพธ์ที่ได้จะถูกลงลายเซ็นดิจิทัลและผ่านการประเมินจากเครือข่ายผู้ตรวจสอบ พร้อมระบบการกระจายค่าธรรมเนียมให้ผู้ให้บริการตามงานที่ดำเนินการ นอกจากนี้ สินทรัพย์ประเภท NFT และเอเยนต์ที่มุ่งเน้นผู้บริโภคสามารถผสานความสามารถ AI ที่ปรับให้เหมาะสมกับข้อมูลส่วนตัว พร้อมจัดเก็บข้อมูลสำหรับการเรียนรู้ต่อเนื่องในพื้นที่จัดเก็บที่ปลอดภัย
ส่วน 0G สตอเรจถูกออกแบบให้คงทนต่อความล้มเหลวของผู้ดำเนินงาน โดยมีระบบการทำซ้ำและแบ่งสำเนาข้อมูลแบบชาร์ด ช่วยเพิ่มความไว้วางใจในโครงสร้างของเครือข่าย อีกทั้งเลเยอร์การจัดการความพร้อมของข้อมูล สามารถส่งข้อมูลจำนวนมากผ่านหน่วยข้อมูลที่ตรวจสอบได้ภายนอก และรองรับการทำงานร่วมกับ OP Stack และ อาร์บิทรัม(Arbitrum)
ในเครือข่ายยังมี‘AI Alignment Node’ ซึ่งเป็นโหนดเฝ้าระวังที่ต่างจากผู้ผลิตบล็อกทั่วไป โดยมีหน้าที่ตรวจสอบผลลัพธ์ของ AI ให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์และความถูกต้อง โหนดกลุ่มนี้ดำเนินการภายใต้ระบบลิขสิทธิ์ โดยได้รับโควตาโทเคนรวม 15% ของโทเคน 0G ทั้งหมด (รวม 1.5 พันล้านโทเคน) และอนุญาตให้ผู้ถือโทเคนสามารถมีส่วนร่วมผ่านระบบมอบหมายโดยไม่จำเป็นต้องเปิดโหนดเอง จึงช่วยเพิ่มทั้งการกระจายเครือข่ายและความยั่งยืนของระบบ
0G โทเคนเริ่มเปิดตัวเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2025 โดยมีปริมาณโทเคนทั้งหมด 1 พันล้านโทเคน แบ่งสรร 56% ให้กับรางวัลระบบนิเวศและชุมชน ส่วนอีก 44% มอบให้ทีมงานและนักลงทุนเริ่มต้น โทเคนดังกล่าวทำหน้าที่สำคัญในระบบ ทั้งการชำระเงิน, ค่าธรรมเนียมก๊าซ, สเตกกิ้ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบการคำนวณค่าธรรมเนียมรายบริการ เครือข่ายช่วงต้นมีผู้ตรวจสอบ 10 รายซึ่งได้รับการจัดสรรโทเคน และกำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเร่งการเติบโต 0G ก่อตั้งกองทุนพัฒนาระบบนิเวชมูลค่า 88.88 ล้านดอลลาร์ และโครงการกิลด์กว่า 8.88 ล้านดอลลาร์ พร้อมสนับสนุนงานต้นแบบของนักพัฒนาผ่าน SDK หลายสิบโครงการได้รับการสนับสนุนเพื่อทดสอบใช้ทรัพยากรคอมพิวติ้งและข้อมูล และระบบการวัดผลแบบออนเชน ช่วยให้สามารถตอบแทนตามผลงานและความยั่งยืนของโครงการได้อย่างแม่นยำ
ท้ายที่สุด เมซซารีรีเสิร์ช ประเมินว่า 0G กำลังตอบโจทย์ตลาดที่ต้องการเข้าถึงบริการ AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ได้มากขึ้นผ่านเครือข่ายแบบกระจาย พร้อมทั้งเสนอ ‘แนวทางใหม่’ สู่การสร้างระบบ AI ที่มี ‘ความเปิดกว้าง’ และ ‘ความรับผิดชอบ’ ซึ่งถือเป็นทางเลือกสำคัญท่ามกลางความเป็นจริงที่โครงสร้างพื้นฐาน AI ยังคงรวมศูนย์อย่างเข้มข้นในปัจจุบัน
ความคิดเห็น 0