ริเพิล(Ripple) รุกตลาดยุโรป เข้าซื้อพาลิเซด(Palisade) เสริมบริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

ริเพิล(Ripple) บริษัทคริปโตสัญชาติอเมริกัน เข้าซื้อกิจการ ‘พาลิเซด(Palisade)’ บริษัทผู้ให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในยุโรป โดยการเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นรายที่สี่ของปี และถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อขยายบริการด้านโซลูชันการจัดการสินทรัพย์โดยเฉพาะ

พาลิเซด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยี ‘Wallet-as-a-Service’ และมีใบอนุญาตด้านการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในฝรั่งเศสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ริเพิลระบุว่าการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยเสริมความสามารถในการให้บริการดูแลสินทรัพย์แก่ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งบริษัทฟินเทค แพลตฟอร์มคริปโต และองค์กรขนาดใหญ่

ก่อนหน้านี้ ริเพิลได้เข้าซื้อบริษัทเมตาโก(Metaco) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดูแลสินทรัพย์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 2022 และได้นำมารวมเป็นส่วนหนึ่งของ ‘ริเพิล คัสโตดี(Ripple Custody)’ โดยเมตาโกมีฐานลูกค้าเป็นธนาคารรายใหญ่ เช่น ธนาคาร ABSA, BBVA, DBS และโซซิเอเต้ เจเนราล - ฟอร์จ(Societe Generale - FORGE) อย่างไรก็ตาม ลูกค้ากลุ่มธนาคารเหล่านี้ต้องการเพียงเทคโนโลยีภายใต้การควบคุมของตนเอง ขณะที่บริษัทฟินเทคและธุรกิจทั่วไปต้องการผู้ให้บริการดูแลสินทรัพย์ที่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการเพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องการจัดการ

แม้ริเพิลจะมีใบอนุญาตในสหรัฐผ่านบริษัทย่อย ‘สแตนดาร์ด คัสโตดี(Standard Custody)’ แต่ยังขาดใบอนุญาตในสหภาพยุโรป การเข้าซื้อพาลิเซดในครั้งนี้จึงถือเป็นการเติมเต็มช่องว่างเชิงกฎหมายในภูมิภาคดังกล่าว

นอกจากนี้ ริเพิลยังเคยเข้าซื้อ GTreasury ผู้ให้บริการแก้ปัญหาทางการเงินสำหรับองค์กร โดยมีเป้าหมายช่วยให้หัวหน้าฝ่ายการเงินขององค์กรสามารถใช้เหรียญสเตเบิลคอยน์ในการโอนเงินข้ามพรมแดน อย่างไรก็ตาม บริษัทจำนวนมากยังคงไม่ต้องการดูแลคีย์ส่วนตัวหรือระบบที่ซับซ้อนด้วยตนเอง และยังคงเลือกใช้ผู้ให้บริการดูแลสินทรัพย์จากภายนอกที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งพาลิเซดถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมทั้งในด้านเทคโนโลยีและการอนุญาตประกอบกิจการ

ด้วยการเข้าซื้อในครั้งนี้ ริเพิลจึงสามารถยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดบริการดูแลสินทรัพย์สำหรับองค์กร และวางรากฐานสำคัญสำหรับการให้บริการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ ‘คำ’ บริการดูแลสินทรัพย์ในอุตสาหกรรมคริปโตถือเป็นองค์ประกอบหลักสำหรับการขยายฐานนักลงทุนสถาบัน ‘ความคิดเห็น’ การเคลื่อนไหวของริเพิลในครั้งนี้จึงอาจมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรม และการแข่งขันในอนาคต