แรงขายจากวาฬฉุดริปเปิล(XRP) ร่วง 25% แม้ข่าวลือ ETF หนุนตลาด

ราคาของริปเปิล(XRP) ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่า 2.30 ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงขายจากนักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ และนักลงทุนระยะยาวที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับฐานลงเพิ่มเติมในระยะสั้น

ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บนบล็อกเชนอย่าง Glassnode เปิดเผยเมื่อไม่นานนี้ว่า พฤติกรรมการ ‘ขายทำกำไร’ ของผู้ถือริปเปิลกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ผ่านมา นักลงทุนมักขายในช่วงตลาดขาขึ้น แต่รอบนี้พบว่าปริมาณการขายเพิ่มขึ้นแม้ในช่วงที่ราคาลดลง อ้างอิงข้อมูลสิ้นเดือนกันยายน ราคาของริปเปิลได้ร่วงจาก 3.09 ดอลลาร์เหลือเพียง 2.30 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นการร่วงลงราว 25% ขณะที่มูลค่าการขายทำกำไรเฉลี่ยราย 7 วันต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 65 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 877 ล้านบาท) เป็น 220 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,970 ล้านบาท) คิดเป็นการพุ่งขึ้นกว่า 240% ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนไม่รอจังหวะราคารุ่ง แต่เร่งระบายในช่วงราคาพักฐาน

Glassnode วิเคราะห์ว่า พฤติกรรมการขายในช่วงตลาดขาลงนั้น "ไม่ปกติ" โดยในอดีต เช่น ในช่วงราคาขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่รอบเดือนกรกฎาคม หรือเมื่อพุ่งแตะ 3.40 ดอลลาร์ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา การขายเกิดขึ้นขณะตลาดอยู่ในขาขึ้น แตกต่างจากรอบล่าสุดซึ่งแรงขายเกิดขึ้นสวนทางแนวโน้มราคา

ไม่เพียงแต่ผู้ถือรายย่อยเท่านั้น นักลงทุนรายใหญ่หรือวาฬ ก็เริ่มขายเช่นเดียวกัน โดยในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการปล่อยริปเปิลเข้าสู่ตลาดมากถึง 500,000 เหรียญ สร้างแรงกดดันด้านราคาต่อเนื่อง แหล่งข่าวยังระบุว่า นักลงทุนกลุ่มนี้อาจใช้กลยุทธ์ "ซื้อข่าวลือ ขายข่าวจริง (buy the rumor, sell the news)" โดยอิงตามข่าวลือการอนุมัติ ETF ริปเปิลที่กำลังใกล้ความจริงมากขึ้น

ข้อมูลล่าสุดจากเอกสาร S-1 ที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) พบว่าหลายบริษัทได้ลบเงื่อนไขกำหนด ‘ระยะเวลารออนุมัติ’ ออกไปแล้ว นั่นหมายความว่า ETF ที่อิงกับริปเปิลอาจถูกอนุมัติและเปิดตัวภายใน 20 วัน หากไม่มีการคัดค้านแผน คาดว่า ETF ของบริษัทแคนนารี่แคปิตอล(Canary Capital) อาจเปิดตัวเร็วที่สุดในวันที่ 13 พฤศจิกายน

ถึงแม้ข่าวการเปิดตัว ETF จะถือเป็น ‘ข่าวดี’ ต่อตลาด แต่ราคาในปัจจุบันของริปเปิลกลับไม่ตอบรับในทางบวกมากนัก ซึ่งอาจเกิดจากการที่ตลาดสะท้อนความคาดหวังล่วงหน้าแล้ว (‘priced in’) และนักลงทุนจำนวนมากรอขายทำกำไรเมื่อการอนุมัติเกิดขึ้นจริง

โดยรวมแล้ว บรรยากาศของริปเปิลชั่วโมงนี้ยังได้รับแรงกดดันจากความรู้สึก ‘กลัวการเทขาย’ มากกว่าความหวังในเทคนิคราคาฟื้นตัว แม้มีปัจจัยบวกอย่าง ETF เข้ามาช่วยดัน แต่การเคลื่อนไหวของวาฬยังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดแนวโน้มราคาระยะสั้นต่อไปในตลาดคริปโต ความน่าจะเป็นของ ‘การปรับฐานต่อ’ จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม