แม้ว่าริปเปิล(XRP)จะมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แต่ราคากลับยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักเกิดจากแรงขายของนักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ ที่กดดันตลาดในระยะสั้น ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลมูลค่าตลาด
ตามข้อมูลจาก CoinGecko เมื่อเร็ว ๆ นี้ ริปเปิลร่วงลงถึง 10.7% ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ โดยล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ราว 2.30 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,130 บาท) ความเคลื่อนไหวนี้สร้างความแปลกใจให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีข่าวบวกต่อเนื่อง ทั้งการขยายโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทและความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ใช้ Binance
เมื่อวันที่ 5 (ตามเวลาท้องถิ่น) เว็บไซต์ CryptoQuant เปิดเผยรายงานของนักวิเคราะห์ที่ใช้ชื่อว่า ‘CryptoOnchain’ ซึ่งชี้ว่าการลดลงของราคา XRP ส่วนหนึ่งเกิดจาก ‘การเทขายที่เป็นระบบ’ ของวาฬ โดยเขาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ‘XRP Paradox’ พร้อมระบุว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 เป็นต้นมา พบปริมาณเงินฝากเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนของวาฬเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการโอนเงินก้อนใหญ่เข้าสู่ Binance ซึ่งอาจสะท้อนถึงความตั้งใจในการขายเหรียญล่วงหน้า
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า แรงขายดังกล่าวมีการวางแผนมาอย่างชัดเจน โดยสอดคล้องกับการที่บริษัทริปเปิลเพิ่งประกาศระดมทุนได้ 500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท) และมีการบันทึกยอดฝากของวาฬเข้าสู่ตลาดที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ CryptoOnchain ยังให้ความเห็นว่า “ข่าวการระดมทุนสร้างสภาพคล่องทางออกที่สมบูรณ์แบบ และวาฬได้ใช้ช่วงเวลาแห่งความคาดหวังเพื่อกระจายสินทรัพย์ที่ถืออยู่”
แรงขายที่เกิดขึ้นได้กดดันความต้องการซื้อ ส่งผลให้แนวโน้มราคาที่ยกตัวก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยนเป็นขาลง ประกอบกับราคาบิตคอยน์(BTC)ร่วงลงต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.36 ล้านบาท) และอีเธอเรียม(ETH)ร่วงต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 430,000 บาท) ซึ่งยิ่งซ้ำเติมความอ่อนแอในตลาดโดยรวม ส่งผลให้ XRP ทะลุแนวรับที่ระดับ 2.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,260 บาท) และร่วงลงต่ำสุดที่ 2.09 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,840 บาท) ก่อนจะสามารถดีดตัวกลับมาเล็กน้อย
แม้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน แต่ดูเหมือนว่าการฟื้นตัวในระยะสั้นของ XRP ยังคงถูกกดดัน อย่างไรก็ตาม CryptoOnchain กล่าวย้ำว่า “แรงขายในครั้งนี้เป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราว และไม่มีผลต่อพื้นฐานของริปเปิล” โดยล่าสุด ริปเปิลยังเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องผ่านการเข้าซื้อกิจการ Palisade ซึ่งเป็นบริษัทดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และการร่วมมือกับ GTreasury บริษัทซอฟต์แวร์ด้านการเงินดั้งเดิม
นอกจากนี้ บริษัทรายใหญ่อย่าง Franklin Templeton และ Bitwise ก็เร่งผลักดันการเปิดตัวกองทุน XRP แบบสปอต ETF โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจได้รับอนุมัติภายในเดือนนี้ ขณะที่ฝั่งการวิเคราะห์เทคนิคพบว่า ระดับ 1.94 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,640 บาท) เป็นแนวรับสำคัญ และบางรายมองว่า XRP กำลังเข้าสู่ ‘ช่วงสะสมสินทรัพย์’ สำหรับนักลงทุนระยะยาว
แม้ว่าในรอบเดือนที่ผ่านมา XRP จะปรับตัวลดลงมากถึง 22% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่อยู่ที่ 5% แต่หากเทียบกับต้นปี ราคาของ XRP ยังสามารถทำผลตอบแทนได้กว่า 330% สะท้อนถึง ‘ศักยภาพของการเติบโตในระยะกลางถึงยาว’ ที่ยังคงมีอยู่ตาม ‘ความคิดเห็น’ ของนักวิเคราะห์หลายราย
ความคิดเห็น 0