ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในระยะยาว แม้จะไม่ได้เข้าซื้อในจุดที่ดีที่สุดก็ตาม โดยแบบจำลองล่าสุดที่เผยแพร่โดยนักวิเคราะห์คริปโต ‘สมินสตัน วิธ(Sminston With)’ ชี้ให้เห็นว่า *จุดเข้าซื้อไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ* เพื่อให้เห็นกำไรในอนาคต พร้อมส่งสัญญาณถึงนักลงทุนรายยาวว่า ‘ระยะเวลาในการถือครอง’ อาจสำคัญกว่าราคาเข้าซื้อ
เมื่อวันที่ 24 วิธได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านการจำลองการลงทุนในบิตคอยน์ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ภายใต้สถานการณ์สมมุติว่าผู้ลงทุนเริ่มต้นด้วยเงิน 100,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 3.6 ล้านบาท โดยกำหนดราคาซื้อไว้ 3 รูปแบบ ได้แก่ ราคาอ้างอิงที่ 94,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 ล้านบาท), ราคาต่ำกว่าตลาด 20% และราคาสูงกว่าตลาด 20% พร้อมกันนี้มีเงื่อนไขว่าผู้ลงทุนจะถอนออกปีละ 10% เพื่อนำไปใช้หรือออมต่ออีกด้วย
การจำลองดังกล่าวอ้างอิงการคาดการณ์ราคาด้วย ‘โมเดลกำลังสอง(Power-law)’ ซึ่งเป็นแบบจำลองเชิงสถิติที่ตั้งสมมุติฐานว่าราคาบิตคอยน์จะ 'เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสเกลลอการิทึม' โดยแบบจำลองนี้นิยมนำมาใช้ในเชิงมหภาคเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มระยะยาวของราคาคริปโต นอกจากนี้ วิธยังทดสอบผลตอบแทนภายใต้ 3 กลยุทธ์การขาย ได้แก่ ขายเมื่อถึงเป้าราคาประจำปี 2035, ขายต่ำกว่า 20% และขายสูงกว่า 20%
ผลลัพธ์พบว่าความแตกต่างของผลตอบแทนจากจุดเข้าซื้อแทบไม่มีนัยสำคัญ กล่าวคือ ไม่ว่าผู้ลงทุนจะเข้าตลาดในราคาที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาเฉลี่ยเล็กน้อย ผลตอบแทนในระยะยาวยังคง ‘เป็นบวก’ ซึ่ง *ชี้ว่าแทบไม่จำเป็นต้องกังวลกับการเข้าซื้อในจังหวะที่ไม่สมบูรณ์แบบ*
อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจคือ สถานะสภาพคล่องโลกในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าทุกวัฏจักรที่ผ่านมา โดยอาจเป็นปัจจัยหนุนที่ส่งผลดีต่อไม่เพียงแค่บิตคอยน์ แต่รวมถึงตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด
วิธยังระบุเพิ่มเติมว่า ราคาบิตคอยน์ตอนนี้ ‘ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่ควรจะเป็น’ อย่างมีนัยสำคัญ โดยอิงจากโมเดลกำลังสอง ราคาที่ยุติธรรมของบิตคอยน์น่าจะอยู่ที่ราว 170,000 ดอลลาร์ หรือราว 6.2 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า *บิตคอยน์กำลังเทรดต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงอยู่มาก*
"ความคิดเห็น": การวิเคราะห์ครั้งนี้ตอกย้ำมุมมองที่ว่า บิตคอยน์อาจถูกเข้าใจผิดในช่วงการแกว่งตัวระยะสั้น ทั้งที่จริงแล้วราคาเคลื่อนไหวตามปัจจัยมหภาคในระยะยาว และยิ่งอยู่ในช่วง ‘ราคาถูก’ แบบนี้ *นักลงทุนรายยาวยิ่งควรมองว่าเป็นโอกาส* มากกว่าความเสี่ยง
ความคิดเห็น 0