ปีเตอร์ แบรนต์คาดบิตคอยน์(BTC)แตะ 200,000 ดอลลาร์ในปี 2029 ไม่ใช่สิ้นปีนี้

แม้ตลาดจะเต็มไปด้วยความคาดหวังว่า *บิตคอยน์(BTC)* อาจทำสถิติ *สูงสุดใหม่* ได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ *ปีเตอร์ แบรนต์* เทรดเดอร์ระดับตำนาน กลับออกมาแสดงมุมมองที่ ‘ระมัดระวัง’ อย่างชัดเจน โดยเขาเชื่อว่า บิตคอยน์จะ *ไม่สามารถทะลุระดับ 200,000 ดอลลาร์* หรือราว *2 ล้านบาท* ได้ภายในปีนี้ และราคาดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาอีกเกือบ 4 ปีจึงจะเกิดขึ้น

เมื่อวันที่ 2 แบรนต์ได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม *X* ว่า “หากบิตคอยน์เข้าสู่รอบ *ตลาดกระทิง* ครั้งถัดไป ราคาน่าจะพุ่งไปแตะประมาณ *200,000 ดอลลาร์* แต่กรอบเวลานั้นอาจกินเวลาถึงไตรมาส 3 ของปี 2029” เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมยังมองบิตคอยน์ในแง่บวกระยะยาว แต่ไม่คาดว่าราคาจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้”

มุมมองของแบรนต์ ถือว่าตรงข้ามชัดเจนกับนักลงทุนแถวหน้าหลายราย ซึ่งต่างแสดง *ความมั่นใจอย่างมาก* ว่าราคาบิตคอยน์จะพุ่งทะยานสู่ระดับ *200,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้นภายในสิ้นปี* เช่น *อาเธอร์ เฮย์ส*, *ทอม ลี*, *แคธี วูด(Cathie Wood)* และ *ไบรอัน อาร์มสตรอง* ที่เคยระบุว่าบิตคอยน์อาจแตะ *1,000,000 ดอลลาร์* หรือราว *10 ล้านบาท* ภายในปี 2030 โดยเฉพาะ วูด และ อาร์มสตรอง ที่ยังคงเน้นย้ำถึงเป้าหมายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเทียบกับพวกเขา มุมมองของแบรนต์ที่ประเมินบิตคอยน์ในปี 2029 เอาไว้เพียง *200,000 ดอลลาร์* จึงอยู่ต่ำกว่าถึง 80% ของเป้าหมายสูงสุดที่นักลงทุนรายอื่นตั้งไว้

นักวิเคราะห์รายนี้มีประสบการณ์ตั้งแต่ปี 2011 และเคยคาดการณ์จุดสูงสุดของตลาดได้อย่างแม่นยำหลายครั้ง ล่าสุด แบรนต์ยังคงใช้ ‘การวิเคราะห์เชิงเทคนิค’ ที่เยือกเย็นและไม่หวั่นไหวต่อกระแสความตื่นเต้นรอบตลาดมาประกอบการประเมินเช่นเคย

แง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจจากคำพูดของแบรนต์คือ การสะท้อนว่า *ความคาดหวังที่เกินเหตุ* เกี่ยวกับราคาในระยะสั้น อาจต้องถูก ‘ปรับฐาน’ บ้างเพื่อเข้าสู่ *ภาพการเติบโตระยะยาวอย่างมีเหตุผล* นอกจากนี้ยังส่งสัญญาณว่า *ตลาดอาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ* เพื่อให้บิตคอยน์เข้าสู่รอบขาขึ้นรอบใหญ่ครั้งต่อไป

*ความคิดเห็น*: ท่ามกลางกระแสข่าวเชิงบวกมากมาย เช่น ผลกระทบจากการ *ลดรางวัลการขุด(halving)* หรือกระแสบูมของ *กองทุน BTC ETF* สิ่งเหล่านี้อาจไม่เพียงพอในการเร่งราคาขึ้นทันที ดังนั้นนักลงทุนควรเตรียมใจรับสถานการณ์ว่าการ ‘เทขายเพราะผิดหวัง’ ก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน

ทางเลือกที่น่าสนใจอาจไม่ใช่การ ‘วางเดิมพันกับการพุ่งขึ้นทันที’ แต่เป็นการใช้ *กลยุทธ์เฉลี่ยต้นทุนแบบระยะยาว* และออกแบบพอร์ตการลงทุนที่เน้นการถือครองตามวงจรตลาดแทน โดยต้องจับตาภาพใหญ่ของรอบขาขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้ามากกว่าเน้นเพียงราคาช่วงสิ้นปีนี้เท่านั้น