เมกซีเวนเจอร์สชี้ Proof of Reserves คือหัวใจมาตรฐานใหม่ ดันตลาดคริปโตสู่ยุค ‘พิสูจน์ได้’

เมกซีเวนเจอร์ส(MEXC Ventures) บริษัทลงทุนด้านคริปโตระดับโลก ระบุว่า ความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมคริปโตกำลังเปลี่ยนจากรูปแบบ ‘เชื่อฉันสิ (Trust Me)’ ไปสู่แนวคิด ‘พิสูจน์ให้เห็น (Verify Me)’ โดยการพิสูจน์การมีอยู่ของทุนสำรองหรือ ‘Proof of Reserves’ (PoR) กำลังกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในกระบวนการสร้างระบบความน่าเชื่อถือใหม่

จากผลการวิจัยของเมกซีเวนเจอร์ส หลังเหตุการณ์ล่มสลายของศูนย์ซื้อขายแบบรวมศูนย์ (CEX) ต่อเนื่องในปี 2022 และ 2023 ผู้ใช้งานเริ่มตระหนักว่าการยึดมั่นในความเชื่อเพียงอย่างเดียวไม่สามารถปกป้องทรัพย์สินของพวกเขาได้อีกต่อไป ส่งผลให้มีความต้องการให้บริษัทแสดงหลักฐานการถือครองสินทรัพย์จริง ๆ การพิสูจน์ทุนสำรองจึงกลายเป็นกลไกหลักที่ช่วยยืนยันความสามารถในการจ่ายของแพลตฟอร์ม ด้วยวิธีการทางคริปโตที่ตรวจสอบได้และการตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม

ระบบ PoR มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ การเปิดเผยข้อมูลที่ตรวจสอบได้เช่นที่อยู่วอลเล็ตและยอดเงินคงเหลือ, การตรวจสอบโดยหน่วยงานอิสระเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล และการให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบว่าบัญชีของตนถูกรวมอยู่ในการตรวจสอบหรือไม่ ขณะที่บางแพลตฟอร์มเริ่มใช้เทคโนโลยี ‘การพิสูจน์ความรู้ศูนย์ (Zero-Knowledge Proofs หรือ ZKP)’ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ไปพร้อมกับขั้นตอนการยืนยัน

อย่างไรก็ตาม เมกซีเวนเจอร์สชี้ว่า PoR ยังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะการที่รายงานส่วนใหญ่เป็นภาพรวม ณ จุดเวลา (Snapshot) ใดเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถสะท้อนสภาพคล่องจริงในแบบเรียลไทม์ได้ ซึ่งนำไปสู่แนวคิด ‘การพิสูจน์ความสามารถในการชำระหนี้ (Proof of Solvency)’ ที่ครอบคลุมข้อมูลทางการเงินทั้งหมด ทั้งสินทรัพย์, หนี้สิน, สถานะการกู้ยืม และความเสี่ยง เพื่อประเมินสุขภาพทางการเงินของแพลตฟอร์มอย่างรอบด้าน

รายงานยังเสนอเกณฑ์สำหรับประเมินความน่าเชื่อถือของรายงาน PoR เช่น การมีบุคคลภายนอกตรวจสอบ, การรวมภาระหนี้ไว้ด้วยหรือไม่, ช่วงเวลาที่มีการตรวจสอบ, การเปิดเผยที่อยู่วอลเล็ตแบบออนเชน (On-chain), การใช้ ZKP และนโยบายจัดการสภาพคล่องในภาวะวิกฤต ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประเมินได้ว่าทรัพย์สินของตนนั้นได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยจริงหรือไม่

โดยรวม เมกซีเวนเจอร์สมองว่าทิศทางของตลาดกำลังเคลื่อนเข้าสู่มาตรฐานใหม่ที่เน้น ‘ความสามารถในการตรวจสอบ’ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชน พร้อมระบุกรณีตัวอย่างของ Chainlink ที่ได้ผสมผสาน PoR เข้ากับเทคโนโลยี ZK เป็นโมเดลใหม่ที่อาจกลายเป็นมาตรฐานความโปร่งใสสำหรับทั้งศูนย์ซื้อขายแบบรวมศูนย์, การเงินแบบไร้ศูนย์กลาง (DeFi) และบริการจัดเก็บสินทรัพย์ของสถาบันในอนาคต

แนวโน้มดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า แก่นแท้ของการแข่งขันด้านความน่าเชื่อถือในตลาดคริปโต จะไม่ใช่ภาพลักษณ์หรือกลยุทธ์ทางการตลาดอีกต่อไป แต่จะอยู่ที่การแสดง ‘หลักฐานที่พิสูจน์ได้’ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดใหม่ที่ช่วยสร้างรากฐานอันมั่นคงให้กับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมคริปโต