บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุ 91,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 94,000 ดอลลาร์

ตลาดคริปโตเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน หลังบิตคอยน์(BTC) ยืนเหนือระดับ 90,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.3 ล้านบาท โดยดัชนีวัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็เริ่มแสดงสัญญาณเป็นบวก ซึ่งถือว่าส่งผลดีมากกว่าช่วงที่บิตคอยน์เคยแตะ 100,000 ดอลลาร์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน

เมื่อวันที่ 24 ดัชนี ‘ความกลัวและความโลภ(Fear & Greed Index)’ ซึ่งใช้วัดจิตวิทยาการลงทุนในตลาดคริปโต อยู่ที่ระดับ 25 ซึ่งจัดอยู่ใน ‘ความกลัวอย่างรุนแรง’ แต่ก็ขยับขึ้น 3 จุดจากวันก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นเกือบ 10 จุดเมื่อเทียบกับวันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายที่บิตคอยน์เคยซื้อขายที่ระดับสูงกว่า 100,000 ดอลลาร์ ก่อนจะร่วงลงเหลือเลขห้าหลักอีกครั้ง

ขณะนี้ บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 91,032 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 1.33 ล้านบาท โดยเกิดการถกเถียงกันในแวดวงนักวิเคราะห์ว่า จะสามารถทะลุกลับไปแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์อีกครั้งได้หรือไม่ ความเห็นส่วนใหญ่เอนเอียงไปทางที่ว่า 'จังหวะซื้อต่ำ' เริ่มปรากฏ ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกลับมาอีกครั้ง

นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ เท็ด แสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “หากบิตคอยน์สามารถยืนเหนือระดับระหว่าง 93,000 ถึง 94,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ เป็นไปได้สูงว่าจะสามารถทดสอบระดับ 100,000 ดอลลาร์ก่อนการปรับฐานรอบต่อไป” โดยเขาระบุว่า ช่วงราคานี้เป็นแนวต้านสำคัญและจุดเปลี่ยนเชิงจิตวิทยา

ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ตลาดคริปโต ‘แซนติเมนต์(Santiment)’ ยังเสริมว่า ในช่วงหลัง ตลาดมีสัญญาณ ‘หมี’ หรือแนวโน้มการลดลงมากขึ้นในโซเชียลมีเดีย แต่ในอดีตปัจจัยลักษณะนี้กลับกลายเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับการฟื้นตัวเสมอ เมื่อความเห็นทั่วไปพลิกไปทางลบอย่างรวดเร็ว มักจะเป็นช่วงที่ ‘โอกาสซื้อ’ ปรากฏขึ้น

แม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นจะยังไม่ชัดเจนพอที่จะยืนยันการฟื้นตัวอย่างแท้จริง แต่ทิศทางโดยรวมแสดงให้เห็นว่า ตลาดเริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ความคาดหวังต่อการซื้อในราคาต่ำเริ่มเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันแรงขายที่รุนแรงในช่วงก่อนหน้าก็เริ่มคลายตัว ทำให้แนวโน้มของบิตคอยน์กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้งในหมู่นักลงทุน

‘ความกลัวและความโลภ’ ยังคงเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดตลาดสำคัญที่ต้องจับตา ขณะที่ช่วงราคาระหว่าง 93,000 - 94,000 ดอลลาร์ คือแนวรับสำคัญที่นักลงทุนจำนวนมากกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ในช่วงนี้ อาจเป็นตัวบ่งชี้เส้นทางในระยะกลางว่า จะสามารถกลับไปท้าทายระดับ 100,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่