ไซเฟดเดียน อามุสชี้ 'การเก็บมูลค่า' สำคัญกว่า 'ความเป็นส่วนตัว' จุดชนวนถกเถียงในวงการคริปโต

ไซเฟดเดียน อามุส(Saifedean Ammous) นักเขียนและผู้สนับสนุนบิตคอยน์(BTC) ตัวยง ออกมาแสดงความเห็นที่สร้างกระแสถกเถียงในวงการคริปโตอย่างกว้างขวาง โดยระบุว่า ‘การรักษามูลค่า’ ของสกุลเงินมีความสำคัญมากกว่า ‘ความเป็นส่วนตัว’ เมื่อวันที่ 24 เว็บไซต์ Cointelegraph เผยแพร่บทสัมภาษณ์ที่อามุสกล่าวถึงเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา

ผู้เขียนหนังสือ ‘The Bitcoin Standard’ รายนี้ตั้งข้อสังเกตว่า “มีคนจำนวนมากที่ต้องการใช้เงินที่มีมูลค่าสะสมได้มากกว่าที่จะเน้นความเป็นนิรนาม” พร้อมตั้งคำถามกลับว่า ระหว่างสกุลเงินที่ไม่เสื่อมค่ากับสกุลเงินที่มีความเป็นส่วนตัวสูง อะไรคือสิ่งผู้ใช้งานต้องการจริง ๆ

อามุสยังวิจารณ์อย่างรุนแรงต่อซิเคช(ZEC) ซึ่งเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่เน้นความเป็นส่วนตัว เขาระบุว่า การตั้งค่าระบบ ‘ทรัสเต็ดเซ็ตอัป’ (trusted setup) ที่ใช้งานครั้งแรกในปี 2016 ถือเป็นช่องโหว่สำคัญ เพราะต้องอาศัย “ความไว้ใจแบบไร้เงื่อนไข” ต่อบุคคลบางกลุ่ม เขาเสริมว่า “โครงสร้างแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับความโง่เขลา ผมไม่สนใจเลย”

ซิเคชเป็นสกุลเงินที่ใช้ฟีเจอร์ ‘ที่อยู่แบบปกปิด’ (Shielded address) เพื่อปกปิดข้อมูลธุรกรรม เช่น ผู้ส่ง, ผู้รับ, และมูลค่าการโอน โดยใช้เทคโนโลยี ‘การพิสูจน์แบบไม่มีความรู้’ (zero-knowledge proof หรือ zk-proof) อย่างไรก็ตาม อามุสแสดงท่าทีค้านว่า ความเป็นส่วนตัวนี้แลกมาด้วยการสูญเสียความสามารถในการตรวจสอบปริมาณเหรียญที่หมุนเวียนอย่างโปร่งใส

ท่าทีดังกล่าวถูกวิพากษ์จากแวดวงผู้สนับสนุนเหรียญความเป็นส่วนตัวอย่างรุนแรง เมิร์ต มุมทาซ(Mert Mumtaz) ผู้ร่วมก่อตั้ง Helius ให้ความเห็นว่า “ความเป็นส่วนตัวกับการรักษามูลค่าไม่ใช่สิ่งที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เราต้องการทั้งสองอย่างร่วมกัน” พร้อมเสริมว่า “เงินที่ไม่มีความเป็นส่วนตัว รัฐสามารถยึดเมื่อไรก็ได้”

ในขณะเดียวกัน แบร์รี ซิลเบิร์ต(Barry Silbert) ผู้บริหารจาก Digital Currency Group กล่าวว่า กลุ่มผู้สนับสนุนบิตคอยน์ดั้งเดิมต่างให้คุณค่ากับความเป็นส่วนตัว และยังมีคนจำนวนมากที่ยึดถือหลักการนี้อยู่

ด้านซูโค วิลคอกซ์(Zooko Wilcox) ผู้ร่วมก่อตั้งซิเคช กล่าวย้ำถึงความเสี่ยงจากการไม่ปกปิดข้อมูลบนบล็อกเชน โดยอ้างถึงกรณีรัฐบาลแคนาดาติดตามเงินบริจาคไปยังกลุ่มผู้ขับรถบรรทุกประท้วง ด้วยการระบุที่อยู่บิตคอยน์เพื่อปิดล้อมธุรกรรม

ความคิดเห็นจากหลากหลายฝ่ายสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งที่ยังไม่มีข้อสรุปในแวดวงคริปโต ว่า ‘สกุลเงินที่เป็นอิสระจากการควบคุมของรัฐบาล’ ควรมีองค์ประกอบใดเป็นแกนหลัก ความเป็นส่วนตัวอาจช่วยเสริมความเป็นอิสระของผู้ใช้งาน แต่ก็อาจบั่นทอนความโปร่งใสที่จำเป็นต่อการตรวจสอบระบบ

แม้บิตคอยน์จะเน้น ‘การเก็บมูลค่า’ เป็นหลัก ขณะที่โครงการอย่างซิเคชและโมเนโร(XMR) ยึดแนวคิดเรื่อง ‘ความเป็นส่วนตัว’ เป็นศูนย์กลาง แต่ทั้งสองแนวทางยังคงมีบทบาทเฉพาะที่แตกต่างกันในพอร์ตสินทรัพย์ดิจิทัล ท่ามกลางยุคสมัยที่กฎระเบียบและการเฝ้าระวังจากรัฐทวีความเข้มข้น ความเป็นส่วนตัวอาจกลายเป็น ‘คำสำคัญ’ ใหม่ของตลาดคริปโตนับจากนี้