ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บริษัทคริปโต ดิสเพนเซอร์(Crypto Dispensers) ผู้ให้บริการตู้เอทีเอ็มบิตคอยน์(BTC) รายใหญ่ในชิคาโก กำลังพิจารณา *การขายกิจการ* มูลค่าสูงสุดถึง 100 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3,400 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผู้ก่อตั้งบริษัทถูกตั้งข้อหาฟอกเงินโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง ซึ่งอาจมีผลต่ออนาคตของบริษัทและภาคธุรกิจโดยรวม
เมื่อวันที่ 22 ตามเวลาท้องถิ่น บริษัทออกแถลงการณ์ว่าได้เริ่มดำเนินการ *ทบทวนเชิงกลยุทธ์* เพื่อประเมินทางเลือกต่าง ๆ รวมถึงความเป็นไปได้ในการขายกิจการ โดยย้ำว่ายังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด และยังเปิดทางเลือกสำหรับการดำเนินงานอย่างอิสระต่อไปในอนาคต
คริปโต ดิสเพนเซอร์เริ่มเปลี่ยนแนวทางธุรกิจจากการผลิตฮาร์ดแวร์สำหรับตู้เอทีเอ็มบิตคอยน์ไปสู่ *โซลูชันซอฟต์แวร์* ตั้งแต่ปี 2020 อันเป็นผลมาจากการที่กฎระเบียบถูกยกระดับอย่างเข้มงวด, ความเสี่ยงจากการหลอกลวง และภาระด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance) ที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทตั้งเป้าหมายใหม่ไปที่ระบบจัดการคริปโตแบบซอฟต์แวร์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแหล่งรายได้หลัก
ฟิราส อีซา(Firas Isa) CEO ของบริษัทกล่าวว่า “ฮาร์ดแวร์แสดงให้เห็นถึงขีดจำกัด ขณะที่ซอฟต์แวร์แสดงถึงโอกาสในการเติบโต" พร้อมย้ำว่าแผนการขายกิจการครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การปรับโครงสร้าง แต่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สู่อนาคตของบริษัท
อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ก่อตั้งบริษัทถูกดำเนินคดีจากข้อหาฟอกเงินโดยทางการสหรัฐฯได้กระตุ้นให้เกิดความกังวลในอุตสาหกรรม ว่าประเด็นนี้อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือและมูลค่าการเจรจาซื้อขาย แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้ชี้ชัดว่ามีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างเหตุการณ์ทางกฎหมายกับแผนขายกิจการดังกล่าว
บริษัทระบุว่าขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการขายกิจการจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยจะติดตามสภาพตลาดและปฏิกิริยาของนักลงทุนอย่างใกล้ชิด ก่อนจะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย
*คำสำคัญ*: บิตคอยน์(BTC), คริปโต ดิสเพนเซอร์, การขายกิจการ, ซอฟต์แวร์, ฟอกเงิน, Compliance
*ความคิดเห็น*: อุตสาหกรรมตู้เอทีเอ็มคริปโตเริ่มเผชิญข้อจำกัดจากเทคโนโลยีเก่าและแรงกดดันด้านกฎหมาย การเปลี่ยนผ่านสู่แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์อาจเป็นคำตอบในการเพิ่มประสิทธิภาพและขยายขอบเขตธุรกิจ ขณะที่กรณีการฟ้องร้องผู้ก่อตั้งอาจชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเสริมความแข็งแกร่งด้านธรรมาภิบาลของอุตสาหกรรมนี้
ความคิดเห็น 0