Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

คาอิโกเตือนตลาดคริปโตปี 2025 เสี่ยงหนักจากดอกเบี้ยเฟด-ฟองสบู่ AI

คาอิโกเตือนตลาดคริปโตปี 2025 เสี่ยงหนักจากดอกเบี้ยเฟด-ฟองสบู่ AI / Tokenpost

คาอิโก รีเสิร์ช(Kaiko Research) เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า *บิตคอยน์(BTC)* มีความเชื่อมโยงเชิงลบกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด พร้อมเตือนถึง *ความเสี่ยงด้านระบบจากฟองสบู่สินทรัพย์ AI* ที่กำลังก่อตัวอย่างรวดเร็ว โดยเน้นว่าในปี 2025 ตลาดคริปโตกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคที่ไม่อาจมองข้ามได้

รายงานระบุว่า ทิศทางของ *บิตคอยน์ในปี 2025* ถูกขับเคลื่อนโดยนโยบายทางการเงินของเฟดอย่างใกล้ชิด การตรึงหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้สร้างความไม่แน่นอนให้ตลาด พร้อมลดความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุน โดยจากข้อมูลย้อนหลังพบว่า ในช่วงที่เฟดใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ราคาบิตคอยน์มักจะปรับตัวขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อเฟดขึ้นดอกเบี้ย ราคากลับร่วงลงอย่างชัดเจน ตัวอย่างที่ชัดเจนคือในช่วงปี 2020–2022 ซึ่งเป็นช่วงลดดอกเบี้ย บิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดตลอดกาล แต่หลังจากปี 2022 เมื่อเฟดเข้าสู่รอบขึ้นดอกเบี้ย ราคาบิตคอยน์ก็ร่วงลงอย่างรุนแรง อีกทั้งยังมีปัจจัยลบจากเหตุการณ์ FTX ล้มละลายที่ยิ่งซ้ำเติมตลาด

ความผันผวนในปัจจุบันยังเกิดจากเพียงถ้อยคำของเจ้าหน้าที่เฟด เช่นกรณี *ลิซ่า คุก* กรรมการเฟด ที่ไม่ยืนยันแนวโน้มลดดอกเบี้ย ส่งผลกระทบราคาบิตคอยน์ในทันที เหตุดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ‘ความไม่แน่นอนทางนโยบายการเงิน’ เป็นปัจจัยที่ทรงอิทธิพลต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงก่อนหน้า ซึ่งความเป็นไปได้ในการตรึงดอกเบี้ยอยู่ที่ 0% แต่ในขณะนี้กลับเพิ่มสูงกว่า 50% อย่างรวดเร็ว

อีกประเด็นที่ต้องจับตาคือ ฟองสบู่สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ *ปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์ (Generative AI)* โดยคาอิโกระบุว่า มูลค่าหุ้นในกลุ่มนี้พุ่งสูงเกินจริง คล้ายกับฟองสบู่ดอตคอม หรือวิกฤตซับไพรม์ในอดีต ขณะที่เหรียญที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งมีฟังก์ชันการประมวลผลแบบกระจายศูนย์และการจัดการข้อมูลแบบ AI ก็มีการ *ขยายตัวของมูลค่าการซื้อขายและผลตอบแทนในระดับสูง* อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากแรงเก็งกำไร มากกว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง

ถึงแม้บริษัทใหญ่อย่าง *เอ็นวีเดีย(NVIDIA)* จะเติบโตในแง่มูลค่าตลาดได้อย่างมหาศาล แต่บริษัทอย่าง *โอเพนเอไอ(OpenAI)* กลับยังคงประสบภาวะขาดทุนหนัก การมีช่องว่างระหว่างภาพลักษณ์ภายนอกกับผลประกอบการจริงยิ่งเพิ่มความเปราะบางให้กับตลาด และหากเกิดแรงกระแทกจากปัจจัยมหภาคหรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความเชื่อมโยงระหว่างสินทรัพย์ AI และคริปโตที่เพิ่มขึ้น อาจกลายเป็น ‘*ความเสี่ยงด้านระบบ*’ ที่นำไปสู่แรงเทขายแบบลูกโซ่

อย่างไรก็ตาม รายงานยังย้ำถึง *ความยืดหยุ่นของบิตคอยน์* โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตอย่างโควิด-19 และเหตุการณ์ความไม่สงบก่อนวันปลดปล่อยในปี 2025 ที่แม้ราคาจะร่วงช่วงต้น แต่กลับพลิกฟื้นเร็วกว่า *ดัชนี S&P 500, แนสแด็ก และดาวโจนส์* ส่งผลให้ผลตอบแทนระยะยาวของบิตคอยน์ยังคงโดดเด่น ถือเป็นหลักฐานในเชิงสถิติที่สะท้อนศักยภาพของคริปโตในการรับมือกับวิกฤต

สรุปได้ว่า ตลาดคริปโตกำลังได้รับอิทธิพลจาก *สองปัจจัยเสี่ยงใหญ่* ได้แก่ นโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด และฟองสบู่ในสินทรัพย์ AI ดังนั้นการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของทั้งสองอย่างอย่างละเอียด และวางกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะแม้คริปโตจะดิ่งลงในยามวิกฤต แต่ก็มีประวัติศาสตร์ของ *การฟื้นตัวที่รวดเร็วและผลตอบแทนระยะยาวที่น่าจับตา* “ความคิดเห็น” นี่จึงอาจเป็นช่วงเวลาสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นในศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัล

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1