สเตรทิจีเผยอาจขายบิตคอยน์(BTC)เฉพาะยามฉุกเฉิน หากหุ้นต่ำกว่า NAV และหาเงินทุนไม่ได้

สเตรทิจี(Strategy) บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีการลงทุนในบิตคอยน์(BTC) เปิดเผยว่า การขายบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่นั้น จะเกิดขึ้นเฉพาะในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเท่านั้น เช่น เมื่อราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหุ้น(NAV) และไม่สามารถหาเงินทุนเพิ่มเติมจากภายนอกได้

ฟง เล(Phong Le) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสเตรทิจี ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ ‘What Bitcoin Did’ โดยระบุว่า “หากราคาหุ้นของเราต่ำกว่ามูลค่า NAV และไม่มีหนทางหาเงินเพิ่มเติมภายนอก การขายบิตคอยน์ก็ถือเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลในเชิงคณิตศาสตร์” อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่านั่นไม่ใช่การเปลี่ยนนโยบาย แต่เป็น ‘ทางเลือกสุดท้าย’ ที่บริษัทไม่ต้องการนำมาใช้

“ผมไม่อยากเป็นบริษัทที่ขายบิตคอยน์” ฟง เล กล่าว พร้อมแสดงจุดยืนว่านโยบายการบริหารต้องยึดตามเหตุผลทางการเงิน ไม่ใช่อารมณ์ หากตลาดเข้าสู่ภาวะยากลำบาก

กลยุทธ์หลักของสเตรทิจีคือ การซื้อบิตคอยน์เพิ่มเมื่อราคาหุ้นมี ‘พรีเมียม’ หรือสูงกว่ามูลค่า NAV โดยใช้วิธีออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุน ซึ่งจะทำให้จำนวนบิตคอยน์เฉลี่ยต่อหุ้นเพิ่มขึ้น แต่หากราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่า NAV หรือไม่มีพรีเมียม การเพิ่มทุนกลับอาจสร้างผลกระทบเชิงลบต่อผู้ถือหุ้น การขายบางส่วนของบิตคอยน์จึงอาจเป็นทางเลือกในสถานการณ์ดังกล่าว

“ถ้าการออกหุ้นเพิ่มมีผลทำให้ผู้ถือหุ้นถูกลดสัดส่วน เราอาจต้องพิจารณาการขายบิตคอยน์บางส่วนเพื่อรักษาประโยชน์ของผู้ถือหุ้น” ฟง เล กล่าว

ความเห็นนี้แสดงให้เห็นว่า สเตรทิจีไม่ได้มีแผนจะขายสินทรัพย์ในทันที แต่พร้อมปรับตัวอย่างยืดหยุ่นหากเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ตลาดทุนตึงตัวหรือเกิดความผันผวนในราคาหุ้น

‘ความคิดเห็น’: สเตรทิจีถือเป็นตัวอย่างเชิงกลยุทธ์ของบริษัทที่ใช้กลยุทธ์ ‘พรีเมียมบิตคอยน์’ อย่างชาญฉลาด โดยการซื้อบิตคอยน์เพิ่มเมื่อหุ้นมีพรีเมียม และรักษาเสถียรภาพเมื่อตลาดไม่เอื้ออำนวย ถือเป็นโมเดลที่คล้ายกับ ETF บิตคอยน์ แต่แตกต่างตรงการถือบิตคอยน์โดยตรงเพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุด