ตลาดมีมคอยน์พุ่งแตะ 150.6 พันล้านดอลลาร์ จากกระแส ‘ทรัมป์’ ก่อนร่วงแรง

ตลาดมีมคอยน์พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่จากแรงคาดหวัง ‘ทรัมป์’ ก่อนปรับฐานแรง

ตลาดมีมคอยน์กลับมาเป็นที่จับตาอีกครั้ง หลังแตะระดับ ‘มูลค่าตลาดรวม’ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 จากแรงเก็งกำไรเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ และโอกาสที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะได้ดำรงตำแหน่งต่อสมัยที่สอง โดยแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดังอย่าง CoinGecko เปิดเผยว่า *"การเล่าเรื่องทางการเมือง"* หรือ *"Political Narrative"* เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพุ่งขึ้นและร่วงลงของตลาดนี้

รายงาน ‘ตลาดมีมคอยน์ปี 2025’ ของ CoinGecko ระบุว่า ในเดือนธันวาคม 2024 *มูลค่าตลาดรวมของมีมคอยน์* ทะยานแตะ 150.6 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 5.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการทำลายสถิติเดิมในปี 2021 ไปอย่างขาดลอย

เหตุผลเบื้องหลังการปรับตัวขึ้นดังกล่าวมาจากปัจจัยผสมผสานหลายด้าน ได้แก่ การเติบโตของโครงการบน *โซลานา(SOL)* การเปิดตัวเหรียญใหม่ผ่านแพลตฟอร์ม *โทเคนลันช์แพด* ที่เพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือ *แนวโน้มการเมืองของสหรัฐฯ* โดยเฉพาะกระแสสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ที่ร้อนแรงมากขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ทำให้มีมคอยน์ที่เกี่ยวพันกับตัวเขากลายเป็นกระแสหลักทั้งในตลาดคริปโตและโลกโซเชียล

CoinGecko ให้ความเห็นว่า “บรรยากาศที่คึกคักต่อการเลือกตั้งของทรัมป์เร้าให้นักลงทุนเข้ามาเทรดโทเคนที่เกี่ยวข้องอย่างล้นหลาม ส่งผลให้อารมณ์ของตลาดเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวังผลตอบแทนสูงในระยะสั้น” อย่างไรก็ตาม ความร้อนแรงดังกล่าวนำมาสู่การปรับฐานรุนแรงในภายหลัง พร้อมกับความกังวลว่าตลาดกำลัง ‘เก็งข่าว’ มากเกินไป

เมื่อ *การเล่าเรื่องทางการเมือง* ถูกใช้เป็นแกนกลางของการลงทุนในมีมคอยน์ ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายจึงเตือนว่า ความผันผวนจะยังคงสูงต่อไป และการวางแผนกลยุทธ์อย่างรอบคอบ เช่น การเลือกจังหวะเข้าทำและออกจากตลาด จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยง

*ความคิดเห็น*: ตลาดมีมคอยน์แสดงให้เห็นชัดเจนว่า สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้ยังคงอ่อนไหวต่อเหตุการณ์ภายนอก โดยเฉพาะข่าวสารทางการเมือง นักลงทุนจึงควรจัดการอารมณ์และใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ควบคู่กับการตัดสินใจอยู่เสมอ