บิตคอยน์(BTC)อ่อนแรงหลุด 87,000 ดอลลาร์ ขณะเซแคช(ZEC)พุ่งทะลุ 500 ดอลลาร์ สวนกระแสตลาดผันผวน

บิตคอยน์(BTC)พยายามทะลุแนวต้านที่ระดับ 90,000 ดอลลาร์อีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงเผชิญแรงขายอย่างหนัก จนราคาร่วงลงแตะระดับ 86,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.24 ล้านบาท) ในขณะที่เหรียญความเป็นส่วนตัวอย่างเซแคช(ZEC)กลับพุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สองทะลุราคา 500 ดอลลาร์ (ประมาณ 722,500 บาท) ได้สำเร็จ สร้างความโดดเด่นท่ามกลางภาวะตลาดที่ผันผวน

ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์สวิงอยู่ระหว่าง 85,000 ถึง 90,400 ดอลลาร์ตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ล่าสุด หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤศจิกายนเผยออกมา ราคาบิตคอยน์หลุดลงต่ำถึง 84,400 ดอลลาร์ ก่อนรีบาวด์ขึ้น ในวันศุกร์ที่ผ่านมาได้พุ่งกลับสู่ระดับ 90,000 ดอลลาร์อีกครั้ง แต่ไม่สามารถยืนเหนือได้เกินหนึ่งชั่วโมง และร่วงลงมาอยู่ในช่วง 87,500–88,000 ดอลลาร์ ขณะเขียนข่าว

ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลงราว 1.5% ภายในวันเดียว ส่งผลให้มูลค่าตลาดกลับมาต่ำกว่าระดับ 1.75 ล้านล้านดอลลาร์อีกครั้ง (ประมาณ 2,528 ล้านล้านบาท) อย่างไรก็ตาม อัตราการครอบครองตลาด (dominance) ของบิตคอยน์ยังคงทรงตัวที่ราว 57.5% แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์ยังคงเป็นผู้นำตลาดอย่างแข็งแกร่ง

ด้านตลาดอัลท์คอยน์ แม้โดยรวมจะเคลื่อนไหวแผ่วตามบิตคอยน์ แต่เซแคชกลับฉีกแนวพุ่งขึ้นกว่า 13% ภายในหนึ่งวัน ทะลุระดับราคา 500 ดอลลาร์ ขณะที่เหรียญอย่างเรน(RAIN) และไนต์(NIGHT) ก็ปรับตัวขึ้นในระดับสองหลักเช่นกัน ราว 10% ในช่วงเวลาเดียวกัน

อีเธอเรียม(ETH)พยายามทดสอบแนวต้านที่ 3,000 ดอลลาร์แต่ไม่สำเร็จ โดยปัจจุบันกำลังทดสอบแนวรับบริเวณ 2,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 419,000 บาท) ขณะที่ริปเปิล(XRP)อ่อนค่าลงเหลือ 1.85 ดอลลาร์ ทำให้แนวรับหลักที่ 1.90 ดอลลาร์ถูกเจาะลง โดจคอยน์(DOGE)และเชนลิงก์(LINK)ต่างร่วงลงแรงที่สุดในกลุ่มเหรียญหลัก

ขณะเดียวกัน โมนาโร่(XMR) และไฮป์(HYPE) แม้จะเป็นกลุ่มเหรียญที่ไม่โดดเด่นนัก แต่ยังสามารถปรับขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางตลาดที่ผันผวน หนุนภาพรวมเหรียญความเป็นส่วนตัวให้แข็งแกร่งขึ้นอีกระดับ

แม้มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมจะลดลงกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว (ประมาณ 57.8 ล้านล้านบาท) แต่ก็ยังคงยืนเหนือระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,335 ล้านล้านบาท) ได้อย่างหวุดหวิด บ่งชี้ว่าตลาดมีแรงซื้อกลับในจังหวะที่ราคาปรับตัวลงแรง เป็นไปได้ว่าสถานการณ์นี้อาจสร้างจุดเปลี่ยนในระยะสั้นได้ โดยเฉพาะเหรียญที่เริ่มมีสัญญาณดีดตัวสวนทางตลาด

อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวของบิตคอยน์ในการยืนเหนือระดับ 90,000 ดอลลาร์ยังสะท้อนถึงแรงต้านเชิงจิตวิทยาและเทคนิคที่แข็งแกร่ง ทำให้อนาคตของตลาดในระยะใกล้จะขึ้นอยู่กับว่าบิตคอยน์จะสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวได้หรือไม่ นี่อาจเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของทิศทางตลาดคริปโตภายในปลายปีนี้

‘ความคิดเห็น’: แม้กระแสของบิตคอยน์จะยังอ่อนแรง แต่การแสดงพลังของอัลท์คอยน์บางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มเหรียญความเป็นส่วนตัว อาจเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าผู้ลงทุนกำลังมองหาทางเลือกใหม่ในตลาด และการดีดตัวของบางโครงการอาจส่งสัญญาณถึงโมเมนตัมการฟื้นตัวในบางกลุ่ม