XRP กลายเป็นเป้าสนใจนักลงทุนสถาบัน หลังมูลค่า AUM ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์

XRP กำลังได้รับการประเมินใหม่ในฐานะ ‘สินทรัพย์ที่เติบโตเต็มที่’ เมื่อผ่านปัจจัยลบอย่างความไม่แน่นอนด้านกฎหมายและแรงกดดันภายนอกตลาดมาหลายปี ถึงตอนนี้ โครงสร้างของ XRP ดูเหมือนจะไม่สั่นไหวง่าย ๆ จากข่าวลบในระยะสั้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า นี่คือสัญญาณของการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพมากขึ้นในระบบการเงินดั้งเดิม

นักวิเคราะห์บล็อกเชนรายหนึ่งนามว่า วินนี่(Winny) ระบุผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล X เมื่อไม่นานมานี้ว่า “การที่ XRP สามารถเข้าสู่ระบบกองทุน ETF ได้สำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่ง” โดยเขาชี้ว่า กรณีนี้ช่วยเปิดทางให้นักลงทุนจากตลาดแบบดั้งเดิมสามารถเข้าถึง XRP ได้โดยไม่ต้องผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตโดยตรง *“เป็นสัญญาณว่าระบบการเงินเริ่มให้การยอมรับ XRP อย่างเป็นรูปธรรม”*

XRP นั้นผ่านกระบวนการทางกฎหมายกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ และเกิดการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มนักลงทุนหลักจากรายย่อยไปสู่นักลงทุนสถาบัน การถือครองในรูปแบบสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกำลังพุ่งสูง โดยมูลค่าทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับ XRP ภายใต้การบริหาร (AUM) ล่าสุดทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.44 หมื่นล้านบาท) ขณะเดียวกัน ปริมาณ XRP ที่ซื้อขายในตลาดก็ลดลงต่อเนื่อง ทำให้แรงขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ในด้านของข้อมูลเชิงลึก ตลาดกำลังแสดงสัญญาณว่า XRP อยู่ในช่วงของ ‘การสะสมแบบเงียบ ๆ’ โดยเฉพาะจากฝั่งของนักลงทุนสถาบัน นักวิเคราะห์ Xfinancebull เปิดเผยว่า “ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา XRP มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิถึง 6.66 ร้อยล้านดอลลาร์ (ราว 9.62 พันล้านบาท) ขณะที่เดือนธันวาคมอยู่ที่ 4.7 ร้อยล้านดอลลาร์ (ราว 6.79 พันล้านบาท)” ที่โดดเด่นคือ ไม่มีวันที่เงินไหลออกแม้แต่วันเดียว ตรงกันข้ามกับบิตคอยน์(BTC)และอีเธอเรียม(ETH) ที่ต่างเผชิญกับการไหลออกของเงินทุนหลายล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน

ข้อมูลยังเผยว่า XRP มีปริมาณมากกว่า 680 ล้านเหรียญที่อยู่ในสถานะ *‘ล็อกสภาพคล่อง (Liquidity Lock)’* หรือไม่สามารถเทรดได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้ปริมาณ XRP ที่สามารถหมุนเวียนในตลาดได้นั้น ลดลงเรื่อย ๆ และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ลดแรงกดดันจากฝั่งขายในระยะยาว

นักวิเคราะห์หลายคนต่างเห็นพ้องว่าสาเหตุที่ทำให้ XRP ได้รับความนิยมจากนักลงทุนสถาบัน มาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ความสามารถในการรองรับธุรกรรมการเงินที่ซับซ้อน หรือ *“การปรับตัวในโลกของการชำระเงิน”*, สภาพคล่องบนบล็อกเชน หรือ *“การซื้อขายที่เกิดขึ้นจริงได้ทันที”* และความเร็วในการโอนเงินระหว่างประเทศ ทั้งหมดนี้ตรงกับสิ่งที่ระบบการเงินระหว่างธนาคารหรือการชำระเงินข้ามพรมแดนต้องการ

Xfinancebull แสดงความคิดเห็นว่า “ราคาของ XRP ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ไม่ใช่เพราะสินทรัพย์ล้มเหลว แต่เป็นเพราะการปรับฐานของตลาดโดยรวม” เขาชี้ว่า นักลงทุนสถาบันมองข้ามความผันผวนระยะสั้น และให้ความสำคัญกับ *‘โครงสร้างพื้นฐานที่เปลี่ยนไป’*

แม้จะยังไม่สามารถคาดหวังการพุ่งขึ้นของราคาทันทีจากปัจจัยทั้งหมดนี้ แต่ความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่กำลังเกิดขึ้นแบบเงียบ ๆ นั้นอาจมีความหมายมากกว่าที่ตลาดใส่ใจ เห็นได้จากการเปลี่ยนองค์ประกอบนักลงทุน แรงขายที่เบาบางลง และทิศทางกฎหมายที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น Xfinancebull ทิ้งท้ายว่า “ตลาดมักจะส่งสัญญาณแบบกระซิบเสมอเวลาจะเกิดอะไรขึ้น... แต่ในครั้งนี้ มันกำลังตะโกนเสียงดังชัดเจน”