AI จีน 'ดีปซีก' ชี้แนวโน้มโซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP), ซุย(SUI) ถึงต้นปี 2026 พร้อมเตือนความเสี่ยงขาลง

ในขณะที่ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านราคาต่อเนื่อง ปัญญาประดิษฐ์จากจีนภายใต้ชื่อ ‘ดีปซีก(DeepSeek)’ ได้กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เมื่อนำเสนอการวิเคราะห์ราคาและแนวโน้มของเหรียญหลักอย่างโซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP) และซุย(SUI) จนถึงช่วงต้นปี 2026 โดยอิงจากจุดแข็งด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างตลาดในระยะยาว

ดีปซีกวิเคราะห์ว่า แม้โซลานาจะยังคงความเป็น ‘คู่แข่งรายสำคัญของอีเธอเรียม(ETH)’ ด้วยเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศเหรียญมีม(Popular Meme Coin) และดีไฟ(DeFi) แต่มุมมองทางเทคนิคชี้ให้เห็นถึงแนวโน้ม ‘จุดสูงใหม่ที่ต่ำลงและจุดต่ำใหม่’ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณต่อเนื่องของขาลงอย่างชัดเจน

ราคาที่น่าสนใจของโซลานาอยู่ที่ระดับ ‘แนวรับระยะสั้น’ ประมาณ 91.5 ดอลลาร์ หรือราว 131,405 บาท หากไม่สามารถยืนเหนือได้ อาจร่วงสู่ช่วง 70–80 ดอลลาร์ (ประมาณ 100,000–114,832 บาท) แต่หากสามารถทะลุผ่านแนวต้าน 135 ดอลลาร์ (ราว 193,779 บาท) ได้ ก็มีโอกาสกลับสู่แนวโน้มขาขึ้น โดยมุมมอง ‘เป็นกลาง’ สำหรับต้นปี 2026 อยู่ที่ช่วง 75–110 ดอลลาร์

ส่วนริปเปิล แม้จะคลี่คลายข้อพิพาททางกฎหมายกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ซึ่งควรเป็นบวกต่อราคาก็ตาม แต่ดีปซีกประเมินว่าศักยภาพในการฟื้นตัวของ XRP ยังถูกจำกัด โดยแนวต้านแรกอยู่ที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ที่ระดับ 2.37 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,401 บาท) และแนวต้านถัดไปที่ 2.90 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,163 บาท) ขณะที่แนวรับเชิงจิตวิทยาอยู่ที่ 1 ดอลลาร์ (1,435 บาท)

ดีปซีกคาดการณ์ว่า XRP อาจแกว่งตัวระหว่าง 1.10–2.40 ดอลลาร์ (1,578–3,445 บาท) ไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2026 และยังมีแนวโน้มยากที่จะฟื้นกลับไปแตะระดับ 3 ดอลลาร์ในช่วงเวลานี้

สำหรับซุย ซึ่งเคยสร้างกระแสแรงในปี 2024 กลับพบกับแรงเทขายรุนแรง โดยราคาปัจจุบันร่วงลงมากกว่า 64% ดีปซีกชี้ว่าการเติบโตของระบบนิเวศของซุียังคงชะลอตัว และยังห่างชั้นกับโปรโตคอล Layer2 ของอีเธอเรียมอย่างชัดเจน โดยตัวเลข TVL ของซุีอยู่ที่เพียง 932 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13,375 ล้านบาท) ซึ่งน้อยกว่าของโซลานาถึง 9 เท่า

ด้วยสถานการณ์นี้ ดีปซีกเตือนว่าหากซุีไม่สามารถขยายระบบนิเวศได้ อาจกลายเป็น ‘เชนร้าง’ ที่ไม่มีผู้ใช้งาน โดยแนวรับสำคัญถูกตั้งไว้ที่ 1.33 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,909 บาท) ส่วนแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1.70 ดอลลาร์ (2,440 บาท) และมีโอกาสขึ้นไปถึง 2.10 ดอลลาร์ (3,014 บาท) แต่ในช่วงต้นปี 2026 ดีปซีกคาดว่าราคาซุีอาจจะตกลงมาเหลือเพียง 0.80 ดอลลาร์ (1,148 บาท) หรือสูงสุดเพียง 1.50 ดอลลาร์ (2,153 บาท) เท่านั้น พร้อมเตือนถึง ‘Dead Cat Bounce’ หรือการดีดตัวชั่วคราวก่อนกลับลงต่อ

ท่ามกลางตลาดที่ชะลอตัวนี้ กลับมี ‘แม็กซี โดจี(MAXI)’ เหรียญมีมหน้าใหม่ที่กลายเป็นกระแสความสนใจของนักลงทุน โดยแม็กซี โดจีเป็นโครงการบนอีเธอเรียมที่ต่อยอดจากความสำเร็จของโดจีคอยน์(DOGE) ผสมผสานแนวคิดของการสร้างคอมมูนิตี้เทรดเดอร์และระบบรางวัลจากการแข่งขัน

ภายในแพลตฟอร์ม ผู้ใช้งานสามารถแข่งขันด้านผลตอบแทนในการเทรดผ่านกิจกรรมอย่าง ‘MAXI Ripped’ และ ‘MAXI Gains’ ซึ่งเน้นการสร้างแรงจูงใจและพลังปัญญารวมของนักเทรดในชุมชน ขณะเดียวกัน ยังสามารถเข้าร่วมโปรเจกต์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ โดยรองรับทั้งอีเธอเรียม(ETH), เทเธอร์(USDT) และแม้แต่การชำระผ่านบัตรเครดิต โดยในขณะนี้สามารถระดมทุนได้แล้วมากกว่า 4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 57.4 ล้านบาท

*ความคิดเห็น* ดีปซีกนำเสนอการคาดการณ์ราคาด้วยข้อมูลเชิงลึกทั้งด้านเทคนิคและโครงสร้างของตลาด พร้อมประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด การวิเคราะห์เหล่านี้อาจมีประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่ต้องการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในภาวะที่ความผันผวนยังคงสูงในตลาดคริปโต ขณะเดียวกัน การเกิดขึ้นของเหรียญอย่าง MAXI ก็อาจเป็นทางเลือกใหม่ในหมวดลงทุนด้านมีมคอยน์ที่ยังคงดึงดูดความสนใจได้แม้ในช่วงขาลง