Wiki Finance EXPO ฮ่องกง 2026 ดึงผู้นำฟินเทค-คริปโตทั่วโลก ร่วมขับเคลื่อนอนาคต Web3 และ DeFi

งานประชุมด้านฟินเทคและเว็บ3.0 ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ‘Wiki Finance EXPO ฮ่องกง 2026’ ซึ่งจัดโดย WikiEXPO เตรียมเปิดฉากในวันที่ 23–24 กรกฎาคม 2026 ณ โรงแรมฮ็อพเวลล์ ฮ่องกง โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 12,000 คนจากทั่วโลก รวมถึงวิทยากรระดับแนวหน้ากว่า 200 ราย และองค์กรร่วมจัดแสดงกว่า 100 แห่ง จากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก

หัวข้อหลักของงานในปีนี้จะเน้นการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมการเงินผ่าน *ฟินเทค*, *ปัญญาประดิษฐ์(AI)*, *คริปโตเคอร์เรนซี* และ *สินทรัพย์ดิจิทัล*, การแก้ปัญหาสภาพคล่องและฟอเร็กซ์, *เว็บ3.0* และ *การเงินแบบกระจายอำนาจ(DeFi)*, โครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินยุคใหม่ ตลอดจน *การเงินตามหลัก ESG* โดยจะมีทั้งการกล่าวสุนทรพจน์, เสวนา, การพูดคุยเชิงลึก และกิจกรรมเน็ตเวิร์กกิ้ง เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และแนวคิดใหม่ๆ

โลกี้ โซ(Loki So) หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ WikiEXPO กล่าวว่า "ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่เชื่อมโยงโลกตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว" พร้อมเสริมว่า งานในครั้งนี้จะเป็นเวทีที่ช่วยผลักดัน *นวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ* และ *การเติบโตอย่างยั่งยืน* ให้กับวงการฟินเทคและสินทรัพย์ดิจิทัล

ชื่อเสียงของ WikiEXPO ยังได้รับการตอกย้ำด้วยการที่เคยมีผู้นำในแวดวงการเงินและคริปโตเข้าร่วมงานในครั้งก่อน อาทิ โดมินิก วิลเลียมส์ ผู้ก่อตั้ง DFINITY, จัสติน ซัน จากทรอน(TRON), ลีฟ คอลลินส์ ผู้ร่วมก่อตั้งเทเธอร์, โจอี้ แลม สมาชิกทีมงาน Web3 ของรัฐบาลฮ่องกง และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของไบแนนซ์, อัลวิน ฮู จากคูคอยน์, มาริโอ เนาฟาล ซีอีโอของ IBC Group และจูเลียน เทฮัน ประธานฝ่ายพาณิชย์ของบิทเมกซ์(Bitmex)

ตลอดเวลาที่ผ่านมา WikiEXPO ได้จัดกิจกรรมระดับโลกในหลายพื้นที่ เช่น ดูไบ, ฮ่องกง, สิงคโปร์, กรุงเทพฯ, ไซปรัส และซิดนีย์ และได้รับการยอมรับในฐานะแพลตฟอร์มชั้นนำด้าน *คริปโตและฟอเร็กซ์* ซึ่งช่วยเชื่อมโยงผู้เล่นในระบบนิเวศทางการเงินยุคใหม่

สำหรับองค์กรที่สนใจร่วมเป็นผู้สนับสนุนหรือเข้าร่วมจัดแสดงในงาน สามารถติดต่อได้โดยตรงที่โลกี้ โซ (อีเมล: [email protected] / เทเลแกรม: https://t.me/Loki_wikiexpo_coo)

*ความเห็น:* ด้วยธีมที่ครอบคลุมเทคโนโลยีการเงินระดับโลก ทั้ง DeFi, AI และเว็บ3.0 WikiEXPO 2026 จะไม่เพียงเป็นงานพบปะของอุตสาหกรรม แต่ยังทำหน้าที่เป็นเข็มทิศในการขับเคลื่อนอนาคตของระบบการเงินระดับโลก ขณะที่ฮ่องกงก็ได้กลับมายืนยันว่าสถานะ ‘ศูนย์กลางฟินเทคของเอเชีย’ ยังทรงพลังเกินใคร