ไมเคิล ซอนเนนเฟลด์(Michael Sonnenfeldt) ประธานของไทเกอร์21(Tiger21) เปิดเผยว่าเครือข่ายการจัดการสินทรัพย์ของบริษัทถือครองสกุลเงินดิจิทัลมูลค่าประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.17 แสนล้านบาท)
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ซอนเนนเฟลด์กล่าวว่า “เราบริหารสินทรัพย์มูลค่ารวม 2 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.25 ล้านล้านบาท) โดยประมาณ 1-3% ของพอร์ตโฟลิโออยู่ในรูปแบบ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’” เขายังเน้นย้ำทัศนะเชิงบวกต่อบิตคอยน์(BTC) พร้อมเสริมว่าสมาชิกบางคนในเครือข่ายซึ่งเป็นนักลงทุนระดับสูงถึงขั้น ‘ทุ่มหมดหน้าตัก’ ในสกุลเงินดิจิทัล
ซอนเนนเฟลด์ยังเปรียบเทียบบิตคอยน์กับ ‘ทองคำ (Gold)’ โดยกล่าวว่า “ทั้งสองอย่างทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บมูลค่าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสกุลเงินกระแสหลัก” พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่านักลงทุนแบบดั้งเดิมยังคงมองว่าทองคำเป็นตัวเลือกหลัก อย่างไรก็ตาม บิตคอยน์กำลังกลายเป็น ‘ทางเลือกสมัยใหม่’ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังเผชิญภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น อาร์เจนตินาและเลบานอน ซึ่งประชาชนเลือกใช้บิตคอยน์เพื่อ ‘ปกป้องมูลค่าทรัพย์สิน’ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจภายในประเทศ
ไทเกอร์21เป็นองค์กรที่มี ‘สมาชิกนักลงทุนระดับสูง’ กว่า 1,600 คน ซึ่งแต่ละคนถือครองสินทรัพย์สภาพคล่องขั้นต่ำ 20 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 725 ล้านบาท) โดยองค์กรมีสัดส่วนการลงทุนมากกว่า 80% ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์และกองทุนไพรเวทอิควิตี้ นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินสดขององค์กรยังลดลงต่ำกว่า 10% เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป
ขณะเดียวกัน บิตคอยน์มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีทรัมป์ดำรงตำแหน่ง ด้วยนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อสกุลเงินดิจิทัล ทรัมป์ยังแสดงท่าทีสนับสนุนแนวคิดที่ว่าสหรัฐฯ อาจพิจารณาสะสมบิตคอยน์เป็นทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์ นักวิเคราะห์บางคนจึงเชื่อว่ารัฐบาลของเขาอาจสร้าง ‘สภาพแวดล้อมทางกฎหมาย’ ที่เป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมคริปโต
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบในระยะสั้นจากนโยบายการค้าของทรัมป์ ภายหลังการประกาศใช้นโยบายภาษีศุลกากรใหม่กับบางประเทศ พบว่ามูลค่าตลาดคริปโตลดลงถึง 4 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 14.5 ล้านล้านบาท) ซึ่งสะท้อนถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงิน
แม้จะมีความไม่แน่นอน แต่สัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลขนาดใหญ่ของไทเกอร์21 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนักลงทุนสถาบันกำลังขยายพอร์ตโฟลิโอไปสู่ตลาดคริปโตมากขึ้น หากรัฐบาลของทรัมป์สามารถกำหนดกฎระเบียบที่ชัดเจน การเข้ามามีส่วนร่วมของสถาบันในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลก็มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0