อนาคตอีเธอเรียม(ETH): ซอฟต์แวร์ไม่พอ ฮาร์ดแวร์คือกุญแจขยายเครือข่าย

มีการกล่าวถึงว่าการขยายตัวของอีเธอเรียม(ETH) ไม่ได้ขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์ด้วย

ปัจจุบัน เครือข่ายอีเธอเรียมสามารถประมวลผลธุรกรรมได้เพียง 10-62 รายการต่อวินาที ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของการนำไปใช้ในระดับมหาศาล ในทางกลับกัน โซลานา(SOL) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยระยะเวลาสร้างบล็อกที่สั้นและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า

แม้ว่าจะมีการพัฒนาโซลูชันเลเยอร์ 2 (L2) เพื่อช่วยขยายขีดความสามารถของอีเธอเรียม แต่กลับถูกมองว่าเป็นเพียงการบรรเทาปัญหาด้านค่าใช้จ่ายและความล่าช้าในระยะสั้นเท่านั้น ปัจจุบัน โซลูชัน L2 ยังไม่สามารถรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการการประมวลผลแบบเรียลไทม์ เช่น การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และเกมบล็อกเชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชี้ว่า อีเธอเรียมต้องปรับปรุงสมรรถนะของเครือข่ายโดยใช้แนวทางที่มากกว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์ โดยการใช้ฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วถือเป็นกุญแจสำคัญ หนึ่งในแนวคิดที่ วิตาลิก บูเตริน(Vitalik Buterin) นำเสนอคือ ‘Verge’ ซึ่งมุ่งเน้นให้สามารถตรวจสอบโนดของอีเธอเรียมได้บนอุปกรณ์ทั่วไป อย่างไรก็ตาม การทำให้เกิดขึ้นจริงอาจต้องอาศัยฮาร์ดแวร์เฉพาะทาง เช่น วงจรรวมเฉพาะงาน (ASIC)

เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน อีเธอเรียมจำเป็นต้องเพิ่มความเร็วในการประมวลผลธุรกรรม ลดเวลาแฝง และเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่จำเป็น ฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดปัญหาคอขวดและทำให้อีเธอเรียมสามารถขยายเครือข่ายได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ในขณะที่อุตสาหกรรมการเงินแบบดั้งเดิมเริ่มสำรวจการใช้บล็อกเชนเพื่อสร้างระบบชำระเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์ ปัญหาด้านขีดความสามารถของอีเธอเรียมอาจกลายเป็นอุปสรรค ปี 2023 มีการบันทึกมูลค่าการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสูงถึง 190.1 ล้านล้านดอลลาร์ หากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป การปรับปรุงฮาร์ดแวร์อาจจำเป็นต่อการรักษาความก้าวหน้าในการนำบล็อกเชนมาใช้ในภาคการเงินหลัก

ในภาคอุตสาหกรรม เสียงเรียกร้องให้หันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนในฮาร์ดแวร์แทนที่จะพึ่งพาโซลูชัน L2 อย่างต่อเนื่องเริ่มดังขึ้น หากอีเธอเรียมต้องการรักษาสถานะผู้นำในตลาดบล็อกเชน การสร้างโครงสร้างพื้นฐานฮาร์ดแวร์ที่เชื่อถือได้อาจเป็นทางออกที่จำเป็น มากกว่าการใช้เพียงแนวทางซอฟต์แวร์ที่แก้ไขปัญหาในระยะสั้น